รีวิวแสงกระสือ 2 เมื่อพูดถึงผีที่ลอยหัวไปมา แถมมีไส้ด้วยก็คงไม่พ้นผีกระสือ ซึ่งถ้ามีคนที่ได้ดูภาคแรกก็ไม่ควรพลาดเลยก็ภาคที่สอง ดูแค่ตัวอย่างก็จะเห็นได้ว่ามีตัวละครลับโผล่มาด้วย ไม่ใช่แค่กระสือ กระหังแล้ว

ในส่วนของเรื่องราวก็จะเกี่ยวกับประมาณว่าเป็นการเล่าเรื่องราวของโศกนาฏกรรมที่บ้านโคกอีนวลนั้นเอง เรามาดูกันว่าเรื่องราวในภาคนี้เป็นอย่างไร สามารถเข้ารับชมหนังสนุก ๆ ได้ฟรีที่ ดูหนังใหม่ล่าสุด

รีวิวแสงกระสือ 2 หนังผีไทย เล่าเรื่องราวโศกนาฏกรรมกระสือสายบ้านโคกอีนวล

รีวิวแสงกระสือ 2 หนังผีไทย เล่าเรื่องราวโศกนาฏกรรมกระสือสายบ้านโคกอีนวล

รีวิวแสงกระสือ 2 จากผู้กำกับ โดม สิทธิศิริ มงคลศิริ

ซึ่งในปี 2562 ผู้กำกับโดม สิทธิศิริ มงคลศิริ ได้เอากระสือที่เคยถูกเล่าในรูปแบบหนังเกรดบีขายสายต่างจังหวัดมาตีความใหม่เป็นหนังก้าวข้ามวัย

และใส่ความโรแมนติกผสานการแสดงของ มินนี่ ภัณฑิรา พิพิธยากร นางเอกละครช่อง 7 ที่ก้าวมาแสดงภาพยนตร์ Inhuman Kiss 2 ครั้งแรกจนเกิดเป็นหนังแสงกระสือ กวาดคำชมแต่ไม่กวาดรายได้ทั้งที่คุณภาพของหนังจัดได้ว่าเป็นหนังไทยคุณภาพสูงเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้

จนในที่สุดเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทหนังหน้าใหม่อย่างเนรมิตรหนังฟิล์มได้กำเนิดโปรเจกต์ I Am Monster และสร้างเซอร์ไพร์สให้เรื่องนี้ หนังภาคต่อที่ทิ้งช่วงห่างมาราว 4 ปี

ได้อยู่ในโปรเจกต์นี้ด้วย ซึ่งเรื่องราวจะดำเนินต่อจากหนังภาคแรกภายใต้นักแสดงชุดใหม่และเรื่องราวใหม่ ๆ ที่ยังคงความเป็นแสงกระสือเดิมนั่นคือความโรแมนติกและความสยองขวัญ

ซึ่งสิทธิศิริ มงคลศิริ จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เอกภาพยนตร์ มีอาชีพหลักเป็นผู้กำกับโฆษณา เขาเคยมีผลงานหนังคือ Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย และ เด็กใหม่ หรือ แนนโน๊ะ ตอน Apologise สามารถติดตามการรีวิวของเราได้ที่ รีวิวหนัง

รีวิวแสงกระสือ 2 จากผู้กำกับ โดม สิทธิศิริ มงคลศิริ

และเป็นอดีตผู้กำกับบริษัท Haus Guang ที่ชนะเลิศหนังสั้น รางวัลสุพรรณหงส์พิเศษเรื่อง เมื่อวานนี้ เคยเป็นผู้ช่วยกำกับกับทางบริษัทฟีโนมีน่า Last Summer คือการกำกับหนังเรื่องแรก โดยกำกับส่วนของ มีน แสดงโดย ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์

และเขาได้เผยว่าครั้งแรกที่ได้ยินว่าทำหนังกระสือ แสงกระสือ 2 ผู้กำกับ เขาแทบอยากสตาร์ทรถกลับบ้านเลย เอาตามตรงถ้าให้ผมพูดถึงในฐานะคนดูหนังในตอนนั้น เรายึดติดภาพกระสือที่มีหัวกับไส้ คือ ไม่ได้จะบอกว่าหนังที่เกี่ยวกับกระสือในเรื่องที่เราเคยเห็นมาไม่ดีนะ

แต่ไม่ตรงกับเทสต์ของเรา แต่ทาง ทรานส์ฟอร์เมชั่น ถามผมว่าแล้วทำไมไม่ทำออกมาให้เป็นแนวของผมล่ะ ไม่ทำออกมาให้ดูคาวเลือด มีแต่หัว ไส้ กินอุจจาระ ทรานส์ฟอร์เมชั่นบอกว่าทำไมต้องรังเกียจผีไทย ผีกระสือ ตีโจทย์ให้มันออกมาให้ซิ

ซึ่งตรงนี้เป็นความท้าทายนะ ภาพที่แว่บมาในหัวคือ จะทำให้ยังไงให้เป็นกระสือที่สวยงาม ก็ขอกลับไปเวิร์คงานมา 1 เดือน จนได้เรื่องย่อ และเอาไปให้ทาง ทรานส์ฟอร์เมชั่นดูว่าภาพตรงกันไหม ซึ่งพอเราเห็นภาพเดียวกัน ก็เลยส่งบทให้ มะเดี่ยว ชูเกียรติ เขียนบทภาพยนตร์ต่อทันที

เรื่องย่อของเรื่องนี้

มาต่อกันที่เรื่องราวของเรื่องนี้ แสงกระสือ 2 เรื่องย่อ เป็นเรื่องราว 22 ปีหลังเหตุการณ์กระสือสายบ้านโคกอีนวล น้อย รับบทโดย กฤษดา แคลปป์ ได้พบรักใหม่และมีลูกสาวชื่อ สาว รับบทโดย ชัญญา แม็คคลอรีย์

แต่เธอต้องมารับเชื้อกระสือจากผู้เป็นพ่อที่เคยจูบกับคนรักเก่า น้อยจำต้องพึ่งพายาของบาทหลวงออกัสติน รับบทโดย โจ คัมมินส์ เพื่อควบคุมกระสือในตัวสาว ทำให้เธอได้พบกับคล้าว รับบทโดย กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม หนุ่มเผือกผู้มีพลังพิเศษแอบซ่อนอยู่

แต่หลังจากสาวไม่สามารถควบคุมสัตว์ร้ายในตัวจนเกิดเหตุสยองกับสัตว์ป่าขึ้น สาวจำเป็นต้องหนีการตามล่าของพันธุ์ รับบทโดย นพชัย ชัยนาม ผู้รับงานจากนายทุนฝรั่งให้ตามล่ากระสือ โดยที่เขาเองก็มีความลับสุดอันตรายซ่อนอยู่ งานนี้สาวและคล้าวจำต้องเอาชีวิตรอดทั้งจากสัตว์ประหลาดในตัวของสาวและพันธุ์ให้จงได้

ซึ่งในภาคนี้เปลี่ยนมาใช้บริการผู้กำกับหนังโฆษณาอย่าง ปภังกร ปุนจันทรักษ์ ซึ่งก็แน่นอนว่ามุมมองงานภาพและโปรดักชันย่อมเนี้ยบเป็นธรรมดา และปภังกรดูจะให้ความสำคัญกับซีจีไอ

เรื่องย่อของเรื่องนี้

ในหนังมากเป็นพิเศษถึงขนาดดีไซน์ฉากถอดหัวให้มีความหน่วงของการแสดงผสานกับงานซีจีเนี้ยบ ๆ และยังดีไซน์โมทีฟการเปลี่ยนร่างของสาวให้ออกมาในรูปแบบของไฟฟ้าที่บ้านของเธอกะพริบติด ๆ ดับ ๆ ได้อารมณ์หนังสยองขวัญฝรั่งมาก ๆ

แต่แล้วองค์ประกอบดี ๆ หลายอย่างก็ดันมาสะดุดกับหัวใจหลักในการทำให้ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเป็นหนังที่ดีได้นั่นคือบทภาพยนตร์ ปัญหาสำคัญของภาคนี้

หากให้วิเคราะห์ออกมาแล้วน่าจะมีอยู่ 3 ประเด็นหลัก ๆ ทั้งตัวละครเยอะยุบยับแต่ไม่ค่อยมีประโยชน์ในการเล่าเรื่อง การไม่เล่าที่มาที่ไปของปรากฎการณ์หลายอย่างในเรื่อง รวมไปถึงมันให้เวลากับการพัฒนาตัวละครไม่เพียงพอ

ในประเด็นแรกก่อนเลยสิ่งที่ทำให้ภาคนี้ดูมีความน่าสนใจและให้ภาพที่ต่างจากหนังภาคแรกแจ่มชัดที่สุดคือการเดินเรื่องภายใต้สังคมสยามที่ฝรั่งเป็นใหญ่ เดาเอาว่าน่าจะเป็นยุคสงครามเวียดนามหรืออะไรเทือกนี้

โดยในหนังมี 2 ตัวละครสำคัญคือบาทหลวงออกัสตินและนายทุนฝรั่ง ซึ่งในกรณีของบาทหลวงออกัสตินยังมีที่ทางให้คือเป็นคนสกัดยาจากว่านกระสือและเป็นคนเลี้ยงดูคล้าว แต่ตัวนายทุนฝรั่งถูกใส่มาแบบงง ๆ ว่าจะมาเพื่ออะไร ต้องการกระสือไปทำโชว์หรืออะไรหรือไม่

ใครเป็นนางเอกของเรื่อง

ซึ่งนางเอกของเรื่องนี้ก็คือ ชัญญา แม็คคลอรีย์ ฉันจะให้ทุกคนรู้จักกับนางเอกคนเก่งเป็นอย่างดี ซึ่งนิ้ง ชัญญา ไม่ได้เป็นนักแสดงที่เรียกว่ามากความสามารถและตีบทแตกเพียงอย่างเดียว

แต่เธอคนนี้เรียกว่าเป็นสุดยอดคนคิดบวกและเป็นนักสู้มากๆ ถึงกับเคยเอาชนะ เนื้องอกในสมองที่โอกาสเป็น 1 ในแสนมาแล้ว ด้วยความคิดที่ให้กำลังใจตัวเองตลอดจนส่งพลังงานบวกให้กับคนรอบข้างด้วยนั่นเอง

แสงกระสือ 2 นางเอก เป็นลูกเสี้ยวอังกฤษ โดยคุยแม่ของเธอนั้นเป็นลูกครึ่งไทย อังกฤษ เธอเข้าวงการบันเทิงจากงานถ่ายแบบ งานโฆษณา ตลอดจนถึงงานแสดงมิวสิกวิดีโอ ก่อนที่จะมีผลงานด้านการแสดงแบบเต็มตัว โดยผลงานที่เรียกว่าสร้างชื่อให้กับเธอคือเรื่อง เคว้ง

และ The Deadline นอกจากนั้นเธอยังเคยได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จาก เวทีเอเชียน เทเลวิชัน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 24 ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ สำหรับวงการโทรทัศน์ของเอเชีย และเธอยังเป็นที่พูดถึงมากๆ จากการรับบทบาท ยูริ จาก เด็กใหม่ ซีซั่น 2 อีกด้วยนะ

ใครเป็นนางเอกของเรื่อง

นอกจากการที่เธอจะเป็นนักแสดงที่มีความสามารถและประสบความสำเร็จแล้ว เธอได้เคยออกมาเปิดเผยว่าเธอเคยเป็นผู้ป่วยจากอาการ เนื้องอกในสมอง โอกาสที่จะเป็นเนื้องอกชนิดนี้คือหนึ่งในแสน

แสงกระสือ 2 netflix แต่เธอไม่เคยยอมแพ้กลับกันเธอพยายามใช้ชีวิตด้วยการมองโลกในแง่บวกอยู่เสมอ โดยเธอมีความคิดที่ว่า ถึงแม้ว่าชีวิตของเราจะไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งต่างๆ รอบตัวให้เป็นไปในแบบที่เราอยากให้เป็นได้ แต่เราเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองได้

ข้อดีที่เธอค้นพบหลังจากรู้ว่าตัวเองมีเนื้องอกในสมองนั้น คือการที่เธอได้เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองอะไรใหม่ๆได้ลองทรงผมใหม่ ๆ สีผมใหม่ที่ไม่เคยทำเพราะสุดท้ายแล้วเธอก็ต้องโกนผมทิ้งเพื่อรอการผ่าตัดอยู่ดี

โรคนี้มันทำให้เราตระหนักถึงตัวตนของเราเองและสิ่งรอบตัวมากขึ้นขณะเดียวกันก็สอนให้เรารู้จักเรียนรู้ที่จะมองโลกในแง่บวกอีกด้วย

พระเอกของเรื่องนี้คือใคร

มาทางพระเอกของเรื่องนี้กันมั้งดีกว่า กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2539 เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรของพิบูลพร พิบูลสงคราม กับจามิกา สกุลเดิม: จึงอยู่สุข มีน้องชายชื่อมหิดล พิบูลสงคราม ชื่อเล่น พีเจ

แสงกระสือ 2 พระเอก โดยชื่อเล่นของเขานำมาจากชื่อเล่นของบิดามารดารวมกัน และเป็นเหลนของจอมพล แปลก พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และกฤษณภูมิสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่

ต่อมาเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาที่วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ สาขาการภาพยนตรดิจิทัล มหาวิทยาลัยรังสิต ด้วยเขาหวังใจว่าจะเรียนต่อด้านภาพยนตร์มาตั้งแต่เรียนมัธยม แต่มิสะดวกต่อการเดินทาง

พระเอกของเรื่องนี้คือใคร

และมีงานในวงการบันเทิงเขาจึงดร็อปเรียนและเข้าศึกษาต่อจากโครงการรับตรงของวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิตอล เอกการแสดงและการกำกับการแสดงภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปัจจุบันสำเร็จการศึกษาแล้ว

แสงกระสือ 2 เต็มเรื่อง กฤษณภูมิเข้าสู่วงการจากการเดินแบบในงานฉลองครอบรอบ 20 ปีของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ขณะยังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุลได้พบแล้วชี้ชวนไปคัดเลือกนักแสดงภาพยนตร์เรื่อง เกรียน ฟิคชั่น และถูกรับเลือกให้รับบทเป็น โอ๊ต

ซึ่งมีเหมาะสมด้วยมีวัยใกล้เคียงกับเขาในขณะนั้น ก่อนหน้านี้กฤษณภูมิเคยคัดเลือกนักแสดงภาพยนตร์เรื่อง Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ แต่ไม่ได้รับเลือก

จากนั้นได้เซ็นสัญญากับนาดาวบางกอกเป็นเวลา 5 ปี ได้แสดงเรื่องแรกคือ ไดอารีตุ๊ดซีส์ เดอะซีรีส์ด้วยนะ น่าจะมีคนรู้จักเขาอยู่แล้วจากซีรีย์เรื่องอื่น ๆ มากมาย ก็ถือว่าเขาเป็นคนเก่งเลยทีเดียว

รีวิวแสงกระสือ 2 บทที่แตกต่างจากภาคแรก

ฉันรู้สึกว่าในภาคนี้แอบมีบทสรุปแล้วพอหนังจะดำเนินรอยตามหนังภาคแรก การมีอยู่ของนายทุนฝรั่งเลยกลายเป็นส่วนเกินโดยปริยาย นอกจากนี้หนังยังทำให้ตัวละครที่ดูเหมือนจะมีประเด็นสำคัญของเรื่องอย่าง อนันต์ ที่รับบทโดย ภูมิภัทร ถาวรศิริ

โดยหนัง แสงกระสือ 2 สปอย ปูให้ตัวละครอนันต์เป็นลูกบุญธรรมบาทหลวงออกัสตินและคอยดูแลคล้าวตั้งแต่เขายังเด็ก พอกลับมาไทยในฐานะนักวิจัยทางการแพทย์หนังยังไม่ให้โอกาสเขาในการแสดงสิ่งที่เรียนมาเลยจนน่าเสียดายที่แม้แต่ตัวละครที่ถูกสร้างมาน่าสนใจถูกทิ้งขว้างแบบนี้

และการไม่เล่าที่มาที่ไปของปรากฎการณ์ในหนังเรื่องนี้ ใช้เงื่อนไขต่างจากหนังภาคแรกเพราะในขณะที่เดิมหนังเล่าเรื่องในหมู่บ้านห่างไกลช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

และมันเอาเรื่องความกลัวกระสือมาผูกโยงกับภาวะความเป็นอื่นของวัยรุ่น โดยมีผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่ต้องการล่าแม่มดเป็นเงื่อนไขสำคัญของเรื่อง

รีวิวแสงกระสือ 2 บทที่แตกต่างจากภาคแรก

แต่ในหนังภาคนี้มันกลับเลือกตัดประเด็นดังกล่าวทิ้ง ซึ่งมองว่ากล้าหาญนะครับ แต่ในเมื่อตัวละครนายทุนฝรั่งเองหนังก็ไม่อธิบายว่ามาทำธุรกิจชั่วอะไรที่เมืองไทยบ้างนอกจากซื้อเด็กชาวเขาจากพ่อแม่

มิหนำซ้ำหนังยังไม่ได้อธิบายเลยว่านายทุนต้องการเอากระสือไปทำอะไร จะเอาไปโชว์ในงานวัดหรืออย่างไร หรือแม้แต่ตัวบาทหลวงออกัสตินเองก็ยังมีประโยคตอนท้ายที่เปิดประเด็นใหม่ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจนทำผู้ชมงงไปตาม ๆ กัน

และยิ่งไปกว่านั้นตัวละครอย่างพันธุ์ที่ดูน่าจะมีที่มาที่ไปกลับถูกจัดวางมาเหมือนตัวสลับเรื่องกับความรักระหว่างสาวกับคล้าว เพราะถึงแม้จะมีเรื่องประเด็นครอบครัวที่เขาต้องปกป้องหรือสัตว์ร้ายในตัว

แต่หนัง แสงกระสือ 2 pantip ก็ให้พันธุ์ทำหน้าที่แค่มาล่ากระสือ ชักดิ้นชักงอ ไปรับงานสลับอดีตที่ไม่รู้ว่าใส่มาทำไมนอกจากจะอธิบายเรื่องอสูรในตัวของเขาเท่านั้นเองจนเสียดายฝีมือการแสดงของพี่ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม ที่อุตส่าห์ตีความตัวละครได้น่าสนใจหลายจุดอยู่เหมือนกันแหละ

หนังที่รวมนักแสดงมากฝีมือ

ไม่ว่ายังไงก็ตามเอาเป็นว่า เรื่องราวก็ได้ซับซ้อนและยากเกินจะเข้าใจ แต่หนังดันมาตกม้าตายเพราะการเล่าเรื่องที่ไร้เสน่ห์และไร้จุดโดดเด่นใด ๆ ตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน

และไม่มีที่มาที่ไปของตัวละครต่าง ๆ ออกจะน่าเสียดายอยู่ไม่น้อยที่เห็นในเครดิตหนังเรื่องนี้ แสงกระสือ 2 ตัวละคร ว่ามีทีมเขียนบทมากถึง 4 คน แต่ยังไม่สามารถประคับประคองและจัดระเบียบหนังออกมาได้ยังไม่เฉียดเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบ

อาจจะต้องไม่นำไปเปรียบเทียบกับหนังต้นฉบับเลยก็ได้ เพราะสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าเทียบกันไม่ติด ในขณะที่ภาคก่อนเต็มไปด้วยเสน่ห์และการร้อยเรียงเรื่องที่น่าหลงใหลเป็นจุดเด่น

แต่กลับในภาคนี้นั้น หาสิ่งที่เคยเห็นจากหนังต้นฉบับไม่เจอเลย ความพยายามสร้างมิติให้กับคาแรกเตอร์ใหม่ในภาคนี้ก็ล้มเหลว เพราะขาดการปูทางและความสมเหตุสมผลที่ควรจะมีไปอย่างน่าผิดหวัง

หนังที่รวมนักแสดงมากฝีมือ

แต่ก็ยังได้ทีมนักแสดงระดับคุณภาพเกินกว่าคุณภาพของหนังโดยแท้ นักแสดงทุกคนต่างถ่ายทอดบทบาทของตัวเองได้ดีทุกคน แต่ในเมื่อบทหนังและการเล่าเรื่องที่ไม่ส่งเสริมกัน

และกัน ทำให้องค์ประกอบการแสดงก็ไม่สามารถช่วยพยุงตัวหนังเอาไว้ เจเจ กฤษณภูมิ กับ นิ้ง ชัญญา แสดงดีแต่กลับยังไม่โดดเด่นที่สุดแบบที่ควรจะเป็น

ในขณะที่ น้อย กฤษดา กับ ปีเตอร์ นพชัย เรียกได้ว่าเป็นนักแสดงชายตัวท็อปที่ใคร ๆ ก็นึกภาพออก แต่การมาของพวกเขาในหนังเรื่องนี้ แสงกระสือ 2 นักแสดง กลับถูกบดบังราศีตามความไม่สมเหตุสมผลของหนัง ส่วนอีกหนึ่งหนุ่ม เอม ภูมิภัทร

คนนี้คือรุ่นใหม่ที่มาแรงสุด ๆ เขายังคงมอบการแสดงที่ไม่ผิดหวัง เพียงแต่การมาอยู่ของเขาในหนังเรื่องนี้ออกจะผิดที่ผิดทาง และหนังทำให้เขาดูกลืนไปกับจอเลย ใครที่ชื่นชอบตั้งแต่ภาคแรกก็ไม่ควรที่จะพลาด ภาคที่สองเหมือนกัน ส่วนคนที่ยังไม่ได้ดูภาคแรกก็ไม่เป็นไรเพราะเรื่องราวก็ไม่ได้ต่อจากภาคแรกเลย