รีวิวAbout My Father ภาพยนตร์แนวครบอครัวที่ถูกสร้างออกมาได้ดีมาก ๆ ซึ่งน้อยเรื่องมาก ๆ ที่จะสามารถชนะใจคนดูได้ว่า ระหว่างที่ดูไม่มีเบื่อแน่นอน

เป็นเรื่องราวของครอบครัวสุขสันต์ บอกได้เลยว่ามีความฮาที่แทบจะทั้งเรื่องจนทำให้คุณไม่อยากที่จะคาดสายตาจากเรื่องนี้เลย แถมมีเหล่านักแสดงชั้นนำได้มาแสดงเรื่องนี้ด้วย สามารถเข้ารับชมหรังสนุก ๆ ได้เลยที่ ดูหนังใหม่

ซึ่งจะว่าไปหนัง รีวิวตัวพ่อจะแคร์เพื่อ ตลกแนวครอบครัวสุขสันต์หรืออลหม่าน ก็ยังคงเป็นประเภทหนังที่ผู้ผลิตสร้างกันออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับยากขึ้นเรื่อย ๆ ที่จะทำให้คนดูประทับใจ

ก็นานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้ดูหนังแนวนี้ที่ครบทั้งรูปรสในองค์ประกอบ และการมาของเรื่องนี้ ตัวพ่อจะแคร์เพื่อ ก็ถือเป็นหนึ่งในความหวังที่จะมาช่วยเติมเต็มสิ่งที่คิดถึงไปได้ เพราะแค่ได้ยินชื่อนักแสดงนำ เราก็แอบไว้วางใจได้บ้างแล้ว

เป็นหนังคอมเมดี้ฟีลกู๊ดที่นำทีมโดย โรเบิร์ต เดอ นีโร นักแสดงรุ่นเก๋า ประชันฝีมือกับ เซบาสเตียน มานิสกัลโก เจ้าพ่อคอมเมดี้โชว์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วในหนังมาเฟียอย่าง The Irishman ในปี 2019

ขอพูดถึงในส่วนของประวัตนักแสดงที่นำเรื่องนี้ได้ดีมาก ๆ ก็คือ โรเบิร์ต เดอ นีโร เขาเกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 1943 เป็นนักแสดงและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียน เป็นที่รู้จักจากผลงานการแสดงในภาพยนตร์ที่กำกับโดยมาร์ติน อย่าลืมติดตามการรีวิวของเราได้ที่ รีวิวหนัง

สกอร์เซซี และได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในนักแสดงชายที่ดีที่สุดของวงการภาพยนตร์อเมริกัน โดยเขาได้รับรางวัลรางวัลออสการ์ 2 ครั้ง และ ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ 2 ครั้ง รวมถึงได้รับรางวัลเกียรติยศจากสถาบันภาพยนตร์อเมริกันและได้รับเหรียญอิสรภาพประธานาธิบดีจากบารัก โอบามาในปี ค.ศ. 2016

เดอ นีโร เรียนด้านการแสดงจากโรงเรียนสอนการแสดงของลี สตราสเบิร์ก และได้แสดงในภาพยนตร์ของมาร์ติน สกอร์เซซี เป็นครั้งแรกในเรื่อง มาเฟียดงระห่ำ ในปี 1973 เขาได้รับรางวัลออสการ์ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากการแสดงบท วีโต คอร์เลโอเน

ใน เดอะ ก็อดฟาเธอร์ ภาค 2 ในปี 1974  ที่กำกับโดยฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา ก่อนที่จะได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากการแสดงบท เจค ลาม็อตตา นักมวยแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวท

ในภาพยนตร์เรื่อง ตัวพ่อจะแคร์เพื่อ นักชกอหังการ์ ในปี 1980 ที่กำกับโดยสกอร์เซซี และเขายังเคยได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลออสการ์จากผลงานการแสดงในเรื่องอื่นๆ เช่น แท็กซี่มหากาฬ ในปี 1976

และ เดอะ เดียร์ ฮันเตอร์ ในปี 1978 และ ตื่นเถิดเพื่อนถ้าใจยังมีฝัน ในปี 1990 และ กล้าไว้อย่าให้หัวใจหลุด ในปี 1991 และ ลุกขึ้นใหม่ หัวใจมีเธอ ในปี 2012 และ คนใหญ่ไอริช ในปี 2020

และนอกจากผลงานภาพยนตร์ About My Father แล้ว เดอ นีโร ยังมีผลงานทางโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จโดยเขาได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลไพรม์ไทม์เอมมี สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และเข้าชิงรางวัลแซกอวอร์ด

จากเรื่อง เดอะ วิซาร์ด ออฟ ลายส์ ในปี 2017 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ของช่องเอชบีโอ และเข้าชิงรางวัลไพรม์ไทม์เอมมี ในฐานะโปรดิวเซอร์ของละครชุดเรื่อง สายตาแห่งอคติ ในปี 2019 ทางเน็ตฟลิกซ์

เดอ นีโร มีผลงานการแสดงในภาพยนตร์ 6 เรื่อง ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าสู่หอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติ ได้แก่ มาเฟียดงระห่ำ ในปี 1973 และ เดอะ ก็อดฟาเธอร์ ภาค 2 ในปี 1974 และ แท็กซี่มหากาฬ ในปี 1976 และ เดอะ เดียร์ ฮันเตอร์ ในปี 1978

และ นักชกเลือดอหังการ์ ในปี 1980 และ คนดีเหยียบฟ้า ในปี 1990 โดยเขาร่วมกับ เจน โรเซนธาล ก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ชื่อ ไทรเบกา โปรดักชันส์ ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1989 และมีผลงานภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จออกมาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี

และรอเบิร์ต เดอนิโร เริ่มการแสดงครั้งแรกในภาพยนตร์ About My Father นักแสดง เรื่อง The Wedding Party ของผู้กำกับชื่อดัง ไบรอัน เดอพัลมา ซึ่งได้รับคำชมจากนักวิจารณ์หลายสถาบัน และจากนั้นก็ได้แสดงใน The Godfather II ในปี 1974 ในบทวิโต คอร์ลีออเน่ ซึ่งเขาก็ได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม

ต่อมาในปี 1981 เขาได้รับรางวัลออสการ์เป็นตัวที่สองแต่ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง Raging Bull ในปี 1980 จากบท เจค ลาม็อตทา นอกจากนี้ เขายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์อีกถึง 4 ครั้งอีกด้วย

และมาต่อกันที่นักแสดงคู่หูที่เล่นเป็นลูก ประวัติของเขาจะเป็นอย่างไรไปดูกัน เขาเกิด 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2516 เป็นนักแสดงตลกและนักแสดงเดี่ยวชาวอเมริกัน Maniscalco เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องตลกขบขัน

เขาได้เปิดตัวรายการตลกพิเศษ 6 เรื่อง ตัวพ่อจะแคร์เพื่อ นักแสดง เขายังมีบทบาทสนับสนุนในภาพยนตร์เรื่อง Green Book ในปี 2018 และ The Irishman ในปี 2019 โดยรับบทเป็นนักเลง Joe Gallo ในช่วงหลัง มานิกัลโก ร่วมเขียนบทและร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง About My Father ในปี 2023 โดยมี Robert De Niro รับบทเป็นพ่อของเขา

มานิกัลโก เกิดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2516 ในย่านชานเมืองชิคาโกของ Arlington Heights รัฐอิลลินอยส์ เพื่ออพยพชาวอิตาลี Salvatore มานิกัลโกพ่อของเขาซึ่งทำงานเป็นช่างทำผม อพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาพร้อมกับครอบครัวของเขาจาก Cefalù

และเมื่ออายุได้ 15 ปี Rose มานิกัลโกแม่ของเขาเป็นเลขานุการ และครอบครัวของเธอมีต้นกำเนิดใน Naples และ Campania และ ซิซิลี มานิกัลโกเป็นชาวโรมันคาทอลิก และเมื่ออายุแปดขวบ เขาเป็นเด็กประจำแท่นบูชาที่โบสถ์คาทอลิก St. Cecilia

ในเขตชานเมือง Mount Prospect รัฐอิลลินอยส์ เขาเป็นสารส้มของ Rolling Meadows High School เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Northern Illinois ในปี 1995 ซึ่งเขาเป็นประธานของ Sigma Pi fraternity chapter

ด้วยปริญญาด้านการศึกษาด้านการสื่อสาร หลังจากย้ายไปลอสแองเจลิสในปี 2541 มานิกัลโก ได้แสดงที่บาร์และลานโบว์ลิ่งขณะทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่โรงแรม Four Seasons ในเบเวอร์ลีฮิลส์ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเขาทำงานตั้งแต่ปี 2541 ถึง 2548

ตัวพ่อจะแคร์เพื่อ ตัวละคร ถือได้ว่าเขาเป็นราชาแห่งความขบขันทางร่างกาย เขาเป็นที่รู้จักจากอารมณ์ขันประเภท คิดถึงอดีตซึ่งมีพื้นฐานมาจากประสบการณ์ส่วนตัวในครอบครัวและนำเสนอโดยใช้รูปแบบทางร่างกายและวาจาที่หนักหน่วง

ในความขัดแย้งทางวัตถุส่วนใหญ่ของเขาเกี่ยวกับการถูกเลี้ยงดูมาในสภาพแวดล้อมแบบโรงเรียนเก่ากับพ่อที่อพยพ หรือเพียงแค่แสดงความประหลาดใจต่อพฤติกรรมที่แปลกประหลาดของผู้คน

ตัวพ่อจะแคร์เพื่อ pantip และมานิกัลโก กล่าวว่าตลกไม่สามารถเรียนรู้ได้ต้องได้รับ เขาใช้เวลาเกือบ 20 ปีในการพัฒนา คุณเชื่อสิ่งนี้ได้ไหม สไตล์ของอารมณ์ขัน เขาอธิบายว่า คุณไม่ได้เป็นนักเพาะกายในวันแรกที่คุณเริ่มยกน้ำหนัก เรื่องตลกก็เหมือนกัน คุณต้องสร้างมุกตลกให้สมบูรณ์ คุณต้องเพิ่มและลบ คุณจะเห็นว่าอะไรได้ผลนั้นเอง

ต่อกันที่เรื่องราวของเรื่องนี้ ตัวพ่อจะแคร์เพื่อ เรื่องย่อ เริ่มที่เซบาสเตียน บอกพ่อผู้เป็นผู้อพยพชาวอิตาเลียนหัวโบราณของเขาว่า เขากำลังจะหมั้นหมายกับแฟนสาวชาวอเมริกัน พ่อของเขาก็ดึงดันที่จะไปเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กับครอบครัวของฝ่ายหญิงให้ได้

เมื่อสองวัฒนธรรมและครอบครัวที่ไม่มีอะไรเหมือนกันเลยมาปะทะกัน เมื่อสิ้นสุดวันหยุดสุดสัปดาห์ในครั้งนี้แล้ว พวกเขาจะกลายเป็นหนึ่งครอบครัวใหญ่

คงจะบอกได้ว่าเราอาจจะคาดหวังกับมันเกินไปสักนิด เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว เรื่องนี้เป็นหนังตลกครอบครัวที่ยังเสาะหาจุดเด่นของตัวเองไม่เจอสักเท่าไหร่ ถึงจะเชื่อว่าหนังเรื่องนี้มีอยู่

แต่กลับไม่ได้เปล่งประกายแสงออกมาได้อย่างชัดเจน ทำให้กลายเป็นเพียงหนังตลกแฝงประเด็นครอบครัว แบบซ้ำ ๆ เชย ๆ สูตรสำเร็จที่ไม่ค่อยมีอะไรที่แปลกใหม่เท่าไหร่

และหนังอาจจะมีกลิ่นอายความปั่นป่วนแบบตระกูลหนัง Meet the Parents ที่เป็นตำนานหนังในยุคปี 2000s แต่กลับแตะไปไม่ถึงองค์ประกอบนั้นได้เลย

ไม่ได้แม้แต่เฉียดเข้าใกล้แม้แต่น้อย ทำได้แค่เพียงหนังที่ผู้ชมนั่งไปดูไปแล้วหัวเราะออกมาตามน้ำและตามท้องเรื่องเท่านั้น สาระสำคัญต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้แทบจะจับไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักนิดเดียว

ปัญหาก้อนใหญ่ของหนังเรื่องนี้ About My Father เรื่องย่อ คงจะเป็นบทหนังที่ค่อนข้างเบาบางไปสักหน่อย ทั้งที่พยายามจะแตะจับประเด็นที่ทรงพลังเข้ามาผสมผสานกัน แต่กลับกลายเป็นการผสมส่วนประกอบที่ค่อนข้างล้มเหลวไปสักหน่อย

มีทั้งเรื่องชีวิตของผู้อพยพ หรือความฟุ้งเฟ้อตระกูลสปอยล์ลูกหลาน แต่ท้ายที่สุดมันก็แตะต้องแค่แบบผิวเผิน ไม่ได้ลงรายละเอียดและเน้นความสำคัญอะไร

ในสำหรับเรื่องนี้ในส่วนของบทหนังเรื่องนี้ About My Father พากย์ไทย ก็มีนักแสดงนำ เซบาสเตียน มานิสคาลโก ร่วมประพันธ์ด้วย ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ยังมีปัญหากับจังหวะการเล่าเรื่องอยู่หลาย ๆ จุดเลย ไม่เท่านั้นมันยังเต็มไปด้วยลีลาที่ค่อนข้างเก่า

และล้าหลังในยุคปี 2023 ไปเสียแล้ว คือมาตรฐานของหนังเรื่องนี้ใกล้เคียงกับหนังฉายสตรีมมิ่งในยุคนี้ ที่ไม่ได้เน้นขายเอาเงิน แต่เน้นเอายอดคนดูเฉย ๆ เท่านั้น

ทางโรเบิร์ต เดอ นีโร ที่ถือว่าเป็นนักแสดงเบอร์หลักของเรื่องนี้ แต่เขากลับไม่ได้รับหน้าที่แบกหนังอะไรทั้งนั้น เพราะบทหนังอ่อนเกินไปที่เขาจะรับบทบาทนี้ได้

แม้กระทั่งตัว เซบาสเตียน มานิสคาลโก ก็ไม่สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ทั้งที่เขาเป็นตัวหลักในการยืนโรงเล่าเรื่องในหนังทั้งหมด แต่ยังเต็มไปด้วยท่าทีที่ขาด ๆ เกิน ๆ ไม่เข้าที่เข้าทางตลอดทั้งเรื่อง

และก็ไหนจะนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ อย่าง คิม แคตทรอลล์ และ เลลี่ บิ๊บส์ หรือ เดวิด แรซ พวกเขามอบการแสดงแบบโอเวอร์แอคติ้งเกินเหตุ สัมผัสได้เลยว่าพยายามในอินเนอร์ให้เติมเต็มในหนังตลก

ทั้งที่พวกเขาไม่ได้ถนัดที่จะรับบทบาทในหนังตลกแนวนี้ได้อย่างคล่องแคล่วสักเท่าไหร่ ผนวกกับบทและจังหวะยิงมุกต่าง ๆ ในหนังค่อนข้างไม่ค่อยเป๊ะเท่าไหร่ด้วย

เอาเป็นว่าภาพรวมแล้วนั้น เรื่องนี้ ตัวพ่อจะแคร์เพื่อ สปอย ก็ไม่ใช่หนังที่เลวร้ายอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ยังค่อนข้างห่างไกลคำว่าสมบูรณ์แบบอยู่มากโข หลายองค์ประกอบของหนังยังไม่เหมาะเจาะพอ

จะเป็นหนังตลกก็ไม่ได้ทำขำ จะเป็นหนังครอบครัวก็เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครได้อย่างแปลกประหลาด ถึงมันจะสร้างความบันเทิงได้อยู่กับเวลาเกือบ ๆ 90 นาที

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ About My Father สนุกหรือไม่ ก็มาจาก เซบาสเตียน มานิสกัลโก เจ้าพ่อคอมเมดี้ชาวอเมริกัน ที่ต้องการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อจริง ๆ ของเขา

ซึ่งอพยพมาจากเกาะซิซิลีตอนที่เขาอายุ 15 ปี เขาจำได้ว่าพ่อเป็นคนประหยัด อีกทั้งมีคุณปู่เป็นช่างตัดผม ซึ่งคาแรกเตอร์ทั้งหมดนี้

ก็ถูกถ่ายถอดผ่านตัวละคร ซัลโว คุณพ่อชาวอิตาเลียนหัวโบราณที่รับบทโดย โรเบิร์ต เดอ นีโร ซึ่งทั้งเซบาสเตียนและเดอ นีโร เคยร่วมงานกันมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง The Irishman ด้วย

แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นหนังครอบครัวสูตรสำเร็จ แต่การดำเนินเรื่องเต็มไปด้วยความสนุกสนาน สอดแทรกมุกตลกฮาๆ ตามสไตล์เจ้าพ่อคอมเมดี้อย่าง เซบาสเตียน มานิสกัลโก ยังคงเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้ตลอดเรื่อง

รวมไปถึงการแสดงของรุ่นเก๋าอย่าง โรเบิร์ต เดอ นีโร สวมบทบาทคุณพ่อหัวโบราณอารมณ์ดี ที่เป็นส่วนผสมที่ลงตัวเมื่อเขาต้องมาประชันบทบาทกับลูกชายที่อยากจะขอแฟนสาวไฮโซแต่งงาน

แต่ความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยลงรอยของสองพ่อลูกได้กลายเป็นเสน่ห์เรียกรอยยิ้ม ซึ้งปนฮา เชื่อว่าหลังจากดูหนังเรื่องนี้ About My Father 2023 จบลง น่าจะทำให้หลาย ๆ คนหันมาใส่ใจความรู้สึกของคนใกล้ตัวมากขึ้น โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่เราอาจเผลอมองข้ามอยู่บ่อย ๆ

เป็นหนังตลกสูตรสำเร็จอีกเรื่องที่พอจะคาดเดาแนวทางเส้นเรื่อง ได้แบบไม่ยากเย็นอะไรนัก ในเรื่องเต็มไปด้วยมุกตลกพื้น ๆ ชวนฮาและสอดเคล้า ความดราม่ากับความสัมพันธ์ของสองพ่อลูกที่ไม่เข้าใจกัน

และไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไรนัก การแสดงของ Robert De Niro ทำให้เรารู้สึกอินตาม จนนั่งซึมไปแปปหนึ่งเลย ส่วนตัวรู้สึกอ่อนไหวง่ายกับอารมณ์ดราม่าคนแก่ด้วยเลยอินเป็นพิเศษ

ภาพยนตร์นี้ About My Father สปอย ดูเหมือนจะเป็นภาพยนตร์ครอบครัวแนวตลก ดราม่าที่ค่อนข้างดาษดื่น และจำเจ เห็นตัวอย่างแล้วจะนึกถึงอีกเรื่องที่คล้าย ๆ กันได้เลย และเดาตอนจบได้แม้จะดูเพียงแค่เทรเลอร์นั่นแหละ

แต่ถือว่าดูเอาฮา เอาสนุกก็ได้เหมือนกันเป็นหนังที่ดูง่ายมาก ๆ  ช่วงดราม่าทำให้เราอินได้เหมือนกัน อาจเพราะความสัมพันธ์ครอบครัวของเรากับตัวละครคล้าย ๆ กันก็เลยอิน แต่จะไม่ได้รู้สึกว่าน่าจดจำขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียว เอาเป็นว่าใครที่ชื่นอชบหนังแนวครอบครัวเรื่องนี้ก็ไม่ควรพลาด