รีวิวBloodhounds เรามาทางซีรีย์เกาหลีที่ออกแนวแอ็คชั่นบู๊นอกสังเวียนกันบ้าง เป็นเรื่องราวของสองหนุ่มนักชกผนึกกำลังกับเถ้าแก่ปล่อยเงินกู้ใจบุญ

เพื่อโค่นล้มแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบสุดโหด บอกเลยว่าใครที่ชอบซีรีย์แนว ๆ นี้ต้องชอบอย่างแน่นอนเกาหลีไม่เคยทำให้เหล่าคอซีรีย์ผิดหวัง ท่านสามารถเข้ารับชมซีรีย์มากมายครบทุกแนวได้เลยที่ ดูหนังออนไลน์ ไม่เสียค่าบริการ ไม่มีโฆษณา

เรื่องนี้เป็นซีรีส์เกาหลี Original Netflix ที่มีแค่ 8 ก็ตอนจบ เป็นซีรีย์ที่ถือได้ว่ามีเรื่องราวไม่ยาวซับซ้อนเท่าไหร่ และแถมฉากการต่อสู้เดือดอีกด้วยนะ

เป็นซีรีส์ Bloodhounds แนวแอ็กชันอาชญากรรม ที่สร้างมาจากเว็บตูน แบ่งแยกดำ ขาว ชัดเป๊ะ แต่เล่าเรื่องราวของคุณธรรมและความชั่วร้ายได้อย่างกลมกลืน ลื่นไหล ลุ้น ระทม

ก็เลยทำให้เรื่องนี้ดูน่าสนใจและชวนติดตามตั้งแต่ต้นจนหยดสุดท้าย บอกเลยว่าเรื่องนี้มีเลือดสาดเต็มหน้าจอ กระซวกยับ อัดน่วม ปิดตาปี๋สำหรับสาว ๆ แต่เอาใจสายบู๊แบบสุดลิ่ม

จากเว็บตูนสายแอ็กชันผลงานการเขียนของ จองชาน มาสู่ผลงานการกำกับและเขียนบทของ เจสัน คิม เป็น Original Netflix 8 ตอนจบ

ขอแวะมาที่ประวัติส่วนตัวสั้น ๆ ของผู้กำกับเรื่องนี้นะ Kim เกิดในปี 1981 เอกการเมืองระหว่างประเทศจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในสหรัฐอเมริกา เขาทำงานเป็นล่ามในกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลีเป็นเวลาสามปีก่อนที่จะเข้าร่วมแผนกส่งเสริมการขายของShowbox ถ้าหากท่านชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวเรื่องอื่น ๆ ได้เลยที่ รีวิวซีรีย์ ใหม่

และต่อมาในแผนกการลงทุนด้านภาพยนตร์ เขาใฝ่ฝันที่จะสร้างภาพยนตร์ของตัวเองและเคยสร้างภาพยนตร์ดราม่าเยาวชนในเวลาว่างGoodbye My Smile ในปี 2010 และKoala ในปี 2013

ในต่อมาเขาลาออกจากงานเพื่อประกอบอาชีพด้านการสร้างภาพยนตร์ เขาใช้เวลาสามปีในการเขียนบทภาพยนตร์กระแสหลักเรื่องแรกของเขาเรื่องMidnight Runners ในปี 2017 ซึ่งได้รับความนิยมในเกาหลีใต้และได้รับการฉายในต่างประเทศด้วย

บอกเล่าเรื่อง Bloodhounds Netflix ราวของสองหนุ่มนักชก ที่เปลี่ยนจากคู่แข่งเป็นคู่ซี้ และต้องมาผนึกกำลังกับเถ้าแก่ใจบุญ เพื่อต่อสู้กับแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบสุดต่ำช้า จนเลือดสาดนอกสังเวียนแบบเจ็บยับ สมศักดิ์ศรีของเรื่องนี้กันไปเลย

กาเดินเรื่องด้วยตัวละครหนุ่มวัยรุ่นนักชกมวย 2 คน ที่หลงเข้ามาในโลกอาชญากรรมของแก๊งเงินกู้นอกระบบ แล้วก็ค่อย ๆ

ในกาต่อยอดเรื่องราวจากจุดนี้ให้ลึกขึ้นไปเรื่อย ๆ ได้อย่างเข้มข้น ในขณะเดียวกันก็ผสมผสานศิลปะการต่อสู้ชกมวยกับกีฬาแนว MMA เข้ามาไว้ในเรื่องด้วย ซึ่งเรื่องราวทั้งสองส่วนนี้ผสมผสานไปด้วยกันได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของตัวเรื่อง Bloodhounds เรื่องย่อ เริ่มต้นปูพื้นเรื่องราวของแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบ หลอกเหยื่อเข้ามาติดกับกลโกงจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ก่อนข่มขู่รีดเงินจากเหยื่อด้วยดอกเบี้ยสุดโหด

ก็แบบที่น่าจะมีเรื่องแบบนี้กันทุกที่ทั่วโลก และเหยื่อคือคนทำมาหากินทั่วไป แต่เรื่องนี้สร้างให้แก๊งนี้ใหญ่โตไปกว่านั้นด้วยการให้เหยื่อคือ แชโบล ก็คือตระกูลเศรษฐีที่มีอิทธิพลครอบงำธุรกิจเกาหลีใต้

ซึ่งปกติซีรีส์เกาหลีมักนำมาสร้างเป็นตัวร้ายเสมอ แต่เรื่องนี้แชโบลกลับกลายเป็นเหยื่อที๋โดนทั้งขูดรีดและแบล็คเมล์ โดยมีเบื้องลึกเป็นแผนการร้ายที่ช่วยขยายสเกลเรื่องให้ใหญ่โตขึ้นถึงระดับชาติได้อย่างน่าติดตาม เอาง่าย ๆ ก็ปะมาว่าบทหนังที่มีนักสู้สองคนรวมตัวต่อต้านแก๊งที่ใหญ่กว่าเพื่อที่จะได้ขึ้นแทนนั้นแหละ

ซึ่งในเรื่องนี้ ซีรีย์ Bloodhounds ยังมีแก๊งเงินกู้นอกระบบฝ่ายดี เป็นมหาเศรษฐีใจบุญที่ปล่อยกู้แบบไม่มีดอกเบี้ยช่วยคนเดือดร้อน ซึ่งตัวเรื่องก็ค่อยๆ ผูกเรื่องให้ตัวเอกนักมวยหนุ่มทั้ง 2 คนให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เป็นการเปิดศึกสงครามกับฝ่ายแก๊งตัวร้าย ที่มีปมความแค้นในอดีตซ่อนอยู่

มีตัวละครนักฆ่าประจำแก๊งทั้งสองฝ่ายที่เซ็ตแบ็คกราวด์มาเป็นอย่างดี ทำให้ตัวละครเหล่านี้มีความลึก มีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่น มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวกันทุกคน การต่อสู้ก็ใช้ความดิบเถื่อนสู้แบบตัวๆ ไม่มีปืน มีแต่มีด และอาวุธประชิดตัว

ก็เลยทำให้เรื่องนี้มีความในเห็นในมุมโลกอาชญากรรมในเรื่องดูเข้มข้นเหมือนแนวยากูซ่าของญี่ปุ่นมาก และยังเป็นแนวทางการเดินเรื่องหลักแบบนี้ทุกตอนต่อเนื่องไปจนจบ

โดยที่ไม่มีเขวออกนอกทางไปเล่าเรื่อง bloodhounds webtoon อื่นเลยแม้แต่น้อย  ทำให้เรื่องกระชับน่าติดตาม ทุกตอนจะจบลงด้วยไคลแม็กซ์ค้างไว้ ทำให้ต้องดูต่อเนื่องกันตลอด ดูแล้วเบรคหยุดดูไม่ได้แน่นอน

ในสิ่งที่โดดเด่นของเรื่องคือการสร้างตัวพระเอก 2 คนเป็นนักมวยคนละสไตล์ ผูกสัมพันธ์กันผ่านการชกมวย จากคู่ชกกลายมาเป็นพี่น้อง ซึ่งเรื่องสร้างอารมณ์ร่วมในส่วนนี้ได้ดีด้วยเวลาสั้น ๆ

และยังใช้การต่อยมวยเป็นเอกลักษณ์หัวใจหลักของฉากแอ็กชั่นทั้งเรื่อง ซึ่งทำออกมาดูสนุก ตื่นเต้น เหมือนเอานักชกพรสวรรค์เก่ง ๆ มาต่อสู้กับแก๊งอาชญากรรมที่มีอาวุธเป็นมีด ไม้ ได้อย่างดุเดือด

แม้จะโอเว่อร์ไปบ้าง แต่ก็อยู่ในจุดที่พอยอมรับได้ โดยมีพัฒนาการของการต่อสู้ขึ้นไปเรื่อย ๆ มีทั้งแพ้แล้วไปฝึกมาใหม่ อัพเวทน้ำหนักตัว สร้างกล้ามเนื้อกับน้ำหนักหมัดมากขึ้นไปเรื่อย ๆ

ซึ่งนักแสดงที่รับบทนี้ทั้งคู่ก็ฟิตหุ่นมีกล้ามจนดูสมจริงมาก ตัวร้ายก็ยังมีพวกที่ฝึกการต่อสู้อย่าง MMA มาด้วย มีการใช้ท่ากอดรัดต่อสู้กับนักมวยแก้ทาางกัน ซึ่งเป็นการใช้แนวศิลปะการต่อสู้ผสมผสานลงไปในเรื่องราวเมโลดราม่าได้อย่างลงตัวมาก นั้นเอง

ถึงแม้ทั้งเรื่อง Bloodhounds ผู้กำกับ จะเต็มไปด้วยฉากต่อสู้ดุเดือดกันทุกตอน แต่ก็ยังใส่แนวเรื่องดราม่าอบอุ่นเยียวยาใจสไตล์เกาหลีลงไปได้ ตัวละครฝ่ายพระเอกเต็มไปด้วยคนดี

และมีความคิดการดำเนินชีวิตแง่บวก ตัวพระเอกใสซื่อจริงใจ แต่ก็พร้อมสู้กับความอยุติธรรม ส่วนนี้ทำให้เรื่องดูกลมกล่อมน่าติดตามเอาใจช่วยตัวละครเหล่านี้มากขึ้นไปอีก

เอาเป็นว่าเรื่องพยายามที่จะให้เราเห็นบทเรื่องนี้ใช้การเดินเรื่อง Bloodhounds ตัวละคร แบบสองตัวเอก ที่จัดให้นักมวยหนุ่มสองคนมาเจอกันบนสังเวียน คิมกอนอู ที่นำแสดงโดยอูโดฮวาน และ ชเวอูจิน ที่นำแสดงโดยอีซังอี

การลงนวมครั้งนี้ชเวอูจินพ่ายแพ้ให้กับคิมกอนอู และทำให้สองคนกลายเป็นเพื่อนกัน แต่ถึงแม้ว่าศึกครั้งนี้คิมกอนอูจะเป็นฝ่ายชนะและได้รับเงินรางวัลแถมยังมีโอกาสไปต่อในเส้นทางนี้

แต่ก็ต้องดับฝันตัวเองลงไปอย่างช่วยไม่ได้ เพราะต้องหาเงินใช้หนี้ที่แม่ไปกู้ยืมมาจากเจ้าหนี้นอกระบบ ด้านชเวอูจินเมื่อรับรู้ความเดือดร้อนของเพื่อน ก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือสุดกำลัง

ซึ่งบทก็ผูกเรื่องราวให้คืบหน้าไปทีละนิด ด้วยการให้สองคนต้องพัวพันกันด้วยมิตรภาพ โยงดราม่าแบบใจแลกใจ ด้วยการใส่สายสัมพันธ์ของการเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องนาวิกโยธินของทั้งสองคน เข้าไปเป็นกิมมิกเล็ก ๆ

ในเส้นเรื่อง ด้วยการให้ชเวอูจินรักความเป็นนาวิกจนเข้าเส้นเลือด เป็นการขายขำเล็ก ๆ สไตล์ซีรีส์เกาหลี แต่ก็เป็นการสร้างเหตุผลให้คนดูยอมรับกับความสนิทสนมของตัวละครเอกสองตัว ได้อย่างไม่ติดใจสงสัย

และแถมยังผูกความคลั่งไคล้นี้ต่อเนื่องไปถึงตัวละครตัวอื่น ที่ความเป็นนาวิกด้วยกันทำให้เกิดการยื่นมือเข้าช่วยเหลือที่ง่ายมากขึ้นไปอีก แล้วค่อย ๆ ต่อยอดเรื่องราวที่ลึกเข้าไปในเรื่องราวความแค้นแต่หนหลังของแก๊งเงินกู้นอกระบบ

Bloodhounds นักเขียน ด้วยการให้ คิมมยองกิล ที่นำแสดงโดย พัคซองอุง เจ้าของธุรกิจเงินกู้นอกระบบ ดำเนินธุรกิจด้วยความมืดดำขั้นสุด ชนิดที่เรียกว่าหน้าตัวเมีย มีความเกี่ยวพันในอดีตกับ ประธานชเว ที่นำแสดงโดย ฮอจุนโฮ

เป็นอดีตเจ้าใหญ่ในตำนานของวงการเงินกู้ที่ล้างมือในอ่างทองคำ ด้วยการใช้เงินมหาศาลที่มีมาช่วยเหลือคนที่กำลังเดือดร้อน ด้วยการให้กู้โดยไม่คิดดอกเบี้ยเป็นอะไรที่คนไทยหลายคนใฝ่ฝันเลยก็ว่าได้ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือฉันด้วย 555

ก็ถือได้ว่าในความเข้มขันของเรื่องนี้จัดได้ว่าไม่มีพักกันเลยค่ะ คุณผู้ชายดูเพลิน ส่วนผู้เขียนนั้นดูไปปิดตาไปในบางฉาก ก็มันหวาดเสียวจริง ๆ นี่ เพราะก็พี่แกเล่นจัดให้มีแก๊งฝ่ายคนดีกับแก๊งฝ่ายคนชั่วมาสู้กัน

ซึ่งมันก็แน่นอนว่าสองหนุ่มนักมวยของเราต้องเป็นคนดีอย่างไม่ต้องสงสัย และการประจันหน้าของสองแก๊งก็มีเหตุผลซะด้วยสิ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไม่ใช่แค่แก๊งนักแลงตีกัน แต่เป็นเรื่อง Bloodhounds นักแสดง ราวดราม่าที่เข้มลึกกว่านั้น โดยที่ทั้งสองแก๊งต่างมีเพฌชฆาตประจำแก๊ง ที่มีฝีมือระดับพระกาฬ

ในแต่ละคนมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่าง มีดราม่าประจำตัวที่ทำให้เราสามารถอินไปกับเรื่องราวของแต่ละคนได้ จนกลายเป็นซีรีส์อาชญากรรมที่ฆ่าฟันกันอย่างน้ำตาเล็ด มีความอบอุ่นของความสัมพันธ์แทรกอยู่ในเนื้อหาตลอดเส้นเรื่อง

ก็แบบตามสไตล์ซีรีส์เกาหลี โดยที่เนื้อเรื่องไม่ลืมที่จะบอกเราอย่างชัดเจนเลยว่าเราไม่ได้สบันสนุนคนชั่วเลยนะ ถึงตัวละครบางตัวจะกลับใจมาเป็นฝ่ายคนดีแล้วในตอนนี้

และทำให้คนดูเอาใจช่วยพวกเขาแค่ไหนก็ตาม แต่อาชญากรก็ยังคงมีอดีตที่ล้างไม่ออกอยู่วันยังค่ำ แต่ถ้าเราคิดจะทำความดีเป็นการไถ่โทษ ก็จงทำมันให้ถึงที่สุดอย่างมีศักดิ์ศรี

ซีรีส์เล่าเรื่อง Bloodhounds สปอย ไปแบบกระชับ และจบตอนในทุก ๆ ตอนด้วยการทิ้งจุดพีกที่ค้างไว้ซะงั้นน่ะ ทำให้การดูซีรีส์เรื่องนี้ต้องให้เวลาพอสมควรเลยค่ะ

เพราะคุณจะต้องดูต่อไปจนจบให้ได้ ไม่อย่างนั้นคาดว่าจะนอนไม่ค่อยหลับ กระสับกระส่ายแน่นอน โดยที่การเล่าเรื่องตั้งแต่ Ep1 ถึง Ep6 เต็มไปด้วยความมันสะใจ ความอบอุ่นจนยิ้มออก แต่ก็ต้องมาแผ่วลงใน Ep7 ถึง 8

ซึ่งดูจะขัดกับความสมบูรณ์ในตอนต้นอยู่มาก บอกเลยว่าถ้าคุณได้หลุดเข้ามาอ่านรีวิวนี้ก็ต้องโดนตกตาม ๆ กันไปแน่ และถ้าเผลอใจเข้าไปดูด้วยแล้วไม่มีผิดหวังเลย

มาในส่วนของโปรดักชั่นอลังการงานสร้าง สถานที่มีอยู่ไม่กี่ที่ แต่ถ่ายทอดเล่าเรื่องออกมาได้ดี โดยเฉพาะคิวบู๊ แต่ละอันเจ๋ง มุมกล้องยอดเยี่ยมเก็บซีนบู๊ได้ถูกที่ถูกทาง ดูแล้วมันส์ ระทึก

และเหตุหลักที่ทำให้เกิดเรื่อง bloodhounds pantip เกิดราวขึ้น ก็คือ ตัวเอกมีแม่ที่ถูกองค์กรใหญ่ด้านการปล่อยเงินกู้ มาหลอกลวงให้เซ็นสัญญา แล้วจากนั้น มันกลายเป็นหนี้สินพอกพูน แถมยังถูกทวงถามแนวรีดไถใช้กำลังอีก ไม่เท่านั้น

เพราะมันยังเล่าไปถึง กรรมวิธีการหาเงินจากการปล่อยกู้ ที่กลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ลุกขึ้นมาทำ จนสร้างความเดือดร้อนให้กับคนมากมายไม่รู้จบสิ้น ทั้งหมดรวมๆ กัน ทำให้สัมผัสได้ว่า ซีรีส์เรื่องนี้ มันต้องการสะท้อนเรื่องเงินกู้นอกระบบนั่นแล

แม้ว่าเรื่องราวมันดูว่าสั้นแค่ 8 ตอน แต่มันก็บอกเล่าเบื้องหลังของตัวละครได้ดีพอสมควรเลยนะ อย่างเช่น ประธานชเว ชายชราร่ำรวยที่ช่วงล่างพิการต้องนั่งรถเข็นนั่น

เขาก็เขียนบทให้เราเข้าใจถึงอดีต ที่เป็นแรงผลักดันให้กลายเป็นคนในปัจจุบัน หรือตัวละครหลักอย่าง คิมกอนอู ก็เช่นกัน ที่ก็บทบอกเล่าว่า เหตุใดเขาจึงเลือกจะเป็นนักมวย เป็นต้น

ความโดดเด่นของซีรีส์อาจอยู่ตรงฉากบู๊ พาร์ทที่ถูกออกแบบมาให้ดุดันและดุเดือด ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นฝ่ายพระเอกที่จะถูกรุม เขาก็ทำได้ชวนลุ้นดี ว่าฝ่ายใดกันที่จะเพลี่ยงพล้ำ และอีกฝ่ายจะตอบโต้ยังไง

แต่อีกจุดที่ทำให้ซีรีส์มันดูไม่เครียดเกินไป ก็คือ การมีตัวละครอย่าง ฮงอูจิน หนุ่มคลั่งนาวิกฯ อดีตคู่แข่งของกอนอู ที่อีซังอีถ่ายทอดได้ทั้งพาร์ทแอ็คชันดุเดือดและคอมเมดี้ พาคนยิ้มออกท่ามกลางเรื่องราวที่ดูเครียด ๆ

โดยรวมแล้ว ต้องถือว่าเรื่องนี้ Bloodhounds ซับไทย เป็นซีรีส์ที่ดูสนุกมาก แม้ในหลายฉากการต่อสู้จะค่อนข้างรุนแรง แต่ก็ชักชวนให้เราลุ้นตามไปด้วย เอาใจช่วยไปด้วยว่า ฝ่ายประธานชเว สองนักมวย และเหล่าผู้ร่วมภารกิจจะรอดชีวิตกันไปมั้ย ตัวร้ายจะถูกปราบลงได้สำเร็จหรือไม่ พาให้ดูจบตอนแล้วมันอยากจะต่อในทันทีเลยล่ะครับ

เรื่องราวบางส่วนนั้นเดาได้ แต่บางส่วนก็ชวนเซอร์ไพรส์ได้เช่นกัน บางส่วนอาจชวนขัดใจนิด ๆ อย่างเช่น ตอนที่ประธานชเวเปรยว่าจะย้ายห้องสมุด

แต่แล้วก็ไม่เห็นจะย้ายสักที รอจนวันที่อีกฝ่ายบุกนั้นแหละ แต่ก็เข้าใจได้ว่า เขาต้องการจะเขียนบทให้มันมีฉากปะทะกันนั่นเอง นอกจากนั้น สองฝ่ายก็ดูจะทันเกมกันเสมอ เหมือนฝ่ายหนึ่งจะได้เปรียบไปแล้ว แต่ก็พบว่าอีกฝ่ายก็เดินเกมได้ฉลาดเช่นกัน แบบนี้แหละ มันถึงจะดูสนุก

Bloodhounds ตอนจบ สองหนุ่ม อูโดฮวาน และ อีซังอี ต่างวาดลีลาพะบู๊กันได้เยี่ยม ทั้งจังหวะคอมเมดี้ก็ทำได้ถูกจังหวะ น่าเสียดายอยู่หน่อยที่ คิมแซรน เจอข้อหาเมาแล้วขับจนไม่มีบทในช่วงท้าย แต่ก็ยังเขียนบทให้ลุ้นกันถึงตอนจบได้อยู่ดี ไม่ควรที่จะพลาดเด็ดขาดเลย