รีวิวThe Boogeyman มาแนวหนังผีที่เป็นตำนานของฝั่งอเมริกากันบ้างดีกว่า บอกได้เลยว่าความหลอนนั้น แค่ดูตัวอย่างก็รู้สึกกลัวถึงขั้นผวากันเลย
เรื่องของสองพี่น้องที่พึ่งสูญเสียครอบครัวในบ้านไปแล้วต้องมาพบเจอกับความหลอนที่มีใครทิ้งท้ายเอาไว้ เรามาดูกันว่าเรื่องราวของเรื่องนี้จะหลอนมากแค่ไหนไปดูกัน ถ้าหากท่านกำลังมองหาเว็บดูหนังฟรี ไม่เสียค่าบรืการ ได้ที่ ดูหนังออนไลน์
รีวิวThe Boogeyman หนังผี ที่มีเรื่องราวของตำนานผีปรำปราของฝั่งอเมริกา
รีวิวThe Boogeyman ผลงานจากนิยายสยองขวัญ
เรื่องนี้ รีวิวเดอะ บูกี้แมน อาจจะเป็นหนึ่งในตำนานผีปรำปราของฝั่งอเมริกา ที่เราอาจจะเคยได้ยินได้สัมผัสกับมาบ้าง เพราะที่มันดังได้ก็มาจากเจ้าพ่อนิยายสยอง สตีเวน คิง นำมาร้อยเรียงสร้างเป็นเรื่องราวให้ชวนหลอน กลายออกมาเป็น ซึ่งเรื่องนี้ที่ฉบับนี้อิงมาจากงานเขียนสุดคลาสสิกโดยเฉพาะ ที่จะมาเบิกทางตำนานผีตู้เสื้อผ้าที่ฝรั่งกลัวหนักหนา
ฉันขอพูดถึง เดอะ บูกี้แมน นักเขียนนิยายสยองขวัญที่มีผลงานมากมายอย่าง สตีเฟน เอ็ดวิน คิง เป็นนักเขียนนิยายเขย่าขวัญ ชาวอเมริกัน เกิดวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2490 เคยใช้นามปากกาว่า ริชาร์ด บาร์คแมน และ จอห์น สวิเธน เขียนนวนิยายเรื่องแรกคือ Carrie
ในปี พ.ศ. 2516 ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Doubleday & Co. มีนิยายของคิงถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และบทละครโทรทัศน์ เช่น Salem s Lot และ It และ Misery และ Pet Sematary
ในปี พ.ศ. 2546 มูลนิธิหนังสือแห่งชาติ มอบรางวัล เหรียญสำหรับผู้มีผลงานทางวรรณกรรมอเมริกันอันดีเด่น ให้แก่สตีเฟน คิง ทางสตีเฟน คิง เกิดเมื่อ 21 กันยายน พ.ศ. 2490 ที่เมืองพอร์ตแลนด์ ในรัฐเมน เป็นบุตรคนที่ 2 ของเอ็ดวิน คิง อย่าลืมติดตามผลงานของเราได้เลยที่ รีวิวหนัง
และ เนลลี รูธ พิลส์บูรี เขาเสียพ่อตั้งแต่วัยเด็ก ในปี พ.ศ. 2509 เขาได้เข้าเรียนในภาควิชาภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยเมน ที่เมืองออรอโน หลังจบการศึกษาเขาได้สอนวิชาภาษาอังกฤษในเมืองแฮมปเดน ในรัฐเมน
The Boogeyman ด้านชีวิตส่วนตัว เขาสมรสกับทาบิธา คิง นามกุลก่อนแต่งงาน สปรูซ เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2514 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 3 คนคือ นาโอมิ ราเชล คิง และ โจ คิง และ โอเว่น คิง โดย 2 คนสุดท้ายนี้มีอาชีพเป็นนักเขียนเช่นเดียวกับบิดา-มารดาของพวกเขาเอง
ในปี พ.ศ. 2542 สตีเฟน คิงประสบอุบัติเหตุร้ายแรงด้วยการโดนรถชนระหว่างเดินออกกำลังกายตอนเช้าอยู่บนถนนใกล้บ้านในรัฐเมน เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเข้าทำการผ่าตัด ระหว่างการพักฟื้นร่างกาย
จึงเขียนหนังสือชื่อ On Writing ซึ่งกล่าวถึงที่มาของการเขียนหนังสือ และแรงบันดาลใจที่ทำให้เขียนหนังสือหลาย ๆ เล่ม
ผู้กำกับของเรื่องนี้
เรื่องนี้ The Boogeyman ผู้กำกับ ก็จะเล่าถึงเรื่องราวของสิ่งที่เหนือธรรมชาติอันน่าสะพรึง ที่คอยหลอกหลอนครอบครัวที่ตกเป็นเหยื่อให้ตกอยู่ในความทุกข์ทรมานที่เป็นของผู้กำกับอย่าง ร็อบ ซาเวจ ผู้ที่เคยกำกับหนังรพทึกขวัญอย่าง Host เลย
ซึ่งก่อนที่จะเข้าเรื่องราวของเรื่องนี้ฉันขอแวะไปที่ผู้กำกับของเรื่องนี้ก่อนนะ ซึ่งภาพยนตร์สยองขวัญสามเรื่องโปรดของ Savage ได้แก่ Evil Dead 2 และ The Innocents และ Lake Mungo ในปี 2020 Savage ได้สร้าง Host
ในหลังจากประสบความสำเร็จใน Shudder เขาได้เซ็นสัญญากับ Blumhouse เพื่อกำกับ Dashcam ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเนื่องจากตัวละครนำที่เป็นที่ถกเถียงกัน มีการประกาศว่าซาเวจจะกำกับ The Boogeyman
ในปี 2021 โดยสร้างจากเรื่องสั้นของสตีเฟน คิง ในปี 2023 ซาเวจได้รับตำแหน่งผู้กำกับในการดัดแปลง The Last Days of Jack Sparks โดย Jason Arnopp
ซึ่งในหนังเรื่องนี้ เดอะ บูกี้แมน ผู้กำกับ นั้นตัวหนังจะนำแสดงโดย โซฟี แทตเชอร์ จาก Yellowjackets และ คริส เมสซีน่า จาก Birds of Prey
และ วิเวียน แบลร์ จาก Obi-Wan Kenobi และ มาริน ไอร์แลนด์ จาก The Umbrella Academy และ เมดิสัน หู จาก Bizaardvark และ ลิซาเกย์ แฮมิลตัน จาก Vice และ เดวิด ดัสมอลเชิน จาก Dune ด้วยนะ
เรื่องย่อของเรื่องนี้
ในส่วนของเรื่องราวของเรื่องนี้ เดอะ บูกี้แมน เรื่องย่อ ซาดี้ ฮาร์เปอร์ นักเรียนหญิงวัยมัธยมปลายและ ซอว์เยอร์ น้องสาวของเธอ ที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียแม่อย่างกะทันหัน และไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดีพอจาก วิล พ่อของพวกเขา ที่มีอาชีพเป็นนักจิตวิทยาบำบัด
เพราะตัวเขาเองก็ยังคงรับมือกับความเจ็บปวดของตัวเองอยู่ วันหนึ่งมีผู้ป่วยสุดเวทนาโผล่มาที่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่แล้วผู้ป่วยคนนั้นก็ได้ทิ้งเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดสะพรึงที่ทำให้ครอบครัวของพวกเขาตกเป็นเหยื่อของเรื่องลี้ลับ
อาจจะบอกได้หนังเรื่องนี้ The Boogeyman เรื่องย่อ ก็เป็นตามสูตรสำเร็จของจำพวกหนังผีสุดสยอง ที่ใช้บริการผู้กำกับดาวรุ่งมาชิมลางถ่ายทอดความหลอนแบบเดิม ๆ ที่เราอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว ร็อบ ซาเวจ ที่่ผ่านงานกำกับซีรีส์
และหนังสยองทุนต่ำมาหลายเรื่อง เขารู้วิธีรับมือกับหนังเรื่องนี้ดี ด้วยการสร้างบรรยากาศชวนหลอนและสะพรึงกลัว อีกทั้งยังสามารถรักษาระดับงบประมาณของหนังเอาไว้ได้อย่างน่าพอใจทีมผู้บริหารเลยแหละ
ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกันหรือไม่ แต่ตลอดระยะเวลาที่นั่งดูเรื่องนี้ The Boogeyman นิยาย แอบรู้สึกและนึกถึงรสสัมผัสแบบที่เคยลิ้มลองมาแล้วในหนังดังแจ้งเกิดของผู้กำกับ เดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก อย่าง Lights Out เมื่อไม่กี่ปีก่อน ที่มาในโทนคล้าย ๆ กัน
และยังเป็นหนังผีทุนต่ำเหมือนกัน จังหวะและบรรยากาศชวนให้คิดถึงเรื่องนั้น แม้ว่าความน่ากลัวชวนหลอนะยังทำได้ไม่ถึงมาตรฐานแบบที่ผีไฟดับทำได้ก็ตาม
แต่อย่างน้อย ๆเรื่องนี้ก็ปรับบทและเล่าเรื่องได้ร่วมสมัยได้ดี ก็ไม่วายทิ้งกลิ่นความเป็นนิยายของ สตีเวน คิง ที่มักจะเป็นประเด็นความเจ็บปวด
และดำดิ่งเกี่ยวกับปมปัญหาครอบครัวของวัยรุ่นเข้ามาพัวพัน ถึงจะเป็นพล็อตซ้ำ ๆ ง่าย ๆ ที่เดาทางได้ไม่ยาก ก็ต้องยอมรับว่าหนังสร้างบรรยากาศชวนหลอนได้ดีเหลือเกิน ทั้งที่ผู้ชมจะได้เห็นเจ้าอสุรแค่วับ ๆ แว่บ ๆ ไม่จุใจเท่าไหร่
บรรยากาศของหนังเรื่องนี้
ในการสร้างบรรยากาศของหนังเรื่องนี้ The Boogeyman นักแสดง ที่เน้นภาพแสงน้อย เพราะต้องใช้ลูกเล่นกับการจัดแสงและไฟตลอดทั้งเรื่อง จุดนี้เป็นสิ่งที่รู้สึกประทับใจด้วย
และก็ทำให้หงุดหงิดตามกันไปพร้อม ๆ กัน เพราะท่ามกลางความมืดมัวที่หนังพยายามบิ้วท์อารมณ์อยู่นั้น ถึงจะเป็นจังหวะที่ใช้ได้ แต่บางซีนมันกลับมืดเกินจำเป็น มืดชนิดที่แทบจะมองไม่เห็นรายละเอียดต่าง ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบางครั้งด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าหนังสไตล์นี้ มักจะใช้บริการนักแสดงหน้าใหม่และนักแสดงที่ยังไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าไหร่ และถือว่าหนังเรื่องนี้แคสติ้งนักแสดงมาได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะ โซฟี แททเชอร์ ที่มีเสน่ห์ในหนังเรื่องนี้มาก กล้องรักเธอ
และถึงแม้ว่าจะเข้าฉากกับแสงน้อย ๆ แต่เอกลักษณ์และการแสดงของเธอก็รับหน้ากล้องได้เป็นอย่างดี ถึงจะยังต้องขัดเกลาประสบการณ์แอคติ้งไปอีกหน่อย เชื่อเลยว่าสาวน้อยคนนี้น่าจะมีอนาคตที่ไกลในฮอลลิวูดต่อไป
ในอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ วิเวียน ไลร่า แบลร์ นักแสดงเด็กคนนี้ก็รับบทหนักไม่น้อย ถึงประสบการณ์การแสดงของเธอจะยังไม่ได้มากอะไร แต่เข้ามาเป็นองค์ประกอบเสริมที่เผยแอคติ้งแบบธรรมชาติและไร้เดียงสาในจังหวะที่เหมาะเจาะ ทำให้คนดูเพลินไปกับการไล่ล่าและหนีผีไปกับนักแสดงที่รับบทเป็นสองพี่น้องคู่ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นในภาพรวมแล้ว เรื่องนี้ เดอะ บูกี้แมน นักแสดง ก็จัดได้ว่าเป็นหนังสยองขวัญที่ค่อนข้างเพลย์เซฟกับตัวเองไปสักหน่อย ใช่อยู่ ที่หนังมีจังหวะและการเล่าเรื่องที่สนุกอยู่ การสร้างบรรยากาศความหลอนต่าง ๆ ถือว่ากลมกล่อมกำลังดี
ซึ่งไม่ถึงกับตุ้งแช่ให้เหนื่อยตลอดทั้งเรื่อง ประเด็นหลักและประเด็นรองก็ใช้ได้ เพียงแค่ยังค่อนข้างขาดความสดใหม่ไปในระดับหนึ่ง เพราะหนังแบบนี้เราเคยเห็นมากันบ้างแล้ว มันไม่มีอะไรแปลกใหม่ เป็นหนังสยองที่ดูได้เพลิน ๆ แบบผ่านแล้วก็ผ่านเลยไปเท่านั้นเอง
รีวิวThe Boogeyman ความหลอนที่โครตจะน่ากลัว
ต้องบอกเลยว่าตัวหนังเรื่องนี้ เดอะ บูกี้แมน สปอย นั้นค่อนข้างที่จะน่ากลัวและหลอนมาก ๆ เลยล่ะ เอาแค่เปิดเรื่องมาก็ทำคนดูระทึกกันแล้วล่ะ ยิ่งเป็นนิยายสั้นที่มาจากเจ้าพ่อหนังสยองอย่าง สตีเวน คิง อีกก็แถบจะการันตีได้เลยว่าหนังเรื่องนี้หลอนแน่นอน
ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ตัวหนังจัดหนักใส่คนดูแบบไม่ยั้งตั้งแต่ต้นจนจบเลยก็ว่าได้ และมาพร้อมกับฉากเบื้องหลังที่เป็นบ้านของตัวเองที่มีความแคบมาก ๆ ยิ่งเพิ่มความหลอนได้ดีมากๆเลย และมาพร้อมกับบรรยากาศที่ชวนไม่น่าไว้ใจอะไรสักอย่าง ซึ่งตรงนี้หนังก็ทำออกมาได้ดีงามมาก ๆ
ในส่วนไอ้พวกจังหวะตุ้งแช่ อะเหรอ ต้องบอกเลยว่าเป๊ะมาก ๆ ถึงเราจะเกร็งรอขนาดไหนก็ไม่หนีไม่พ้นจริง ๆ เพราะไอ้ตัวสัวต์ประหลาดนั้นจะมาแบบที่คุณไม่ได้ตั้งตัวกันเลยล่ะ
แต่ในส่วนของพล็อตเรื่อง เดอะบูกี้แมนเต็มเรื่อง นั้นตัวหนังกับไม่ได้บอกถึงที่มาที่ไปของตัวสัตว์ประหลาดนั้นเลย ถ้าบอกสักหน่อยจะเป็นอะไรที่ดีมาก กลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้เน้นขายไปที่ความสยองขวัญเท่านั้น ซึ่งถ้าบอกสักนิดสักหน่อยตัวหนังก็จะดีมากกว่านี้
ในส่วนของเรื่องของความสยอง ต้องบอกเลยว่าทำเอาตัวแอดนั้นกลัวไปเลย ยิ่งถ้าใครที่เป็นโรคกลัวความมืดอยู่แล้ว ไม่แนะนำเลยเพราะในตัวหนังนั้นเล่นกับความมืดเยอะมาก ๆ ยิ่งเป็นฉากในห้องหมอนั้น
แบบอยากจะบอกเลยว่าความหลอนของเรื่องนี้ The Boogeyman สปอย โคตรหลอนเลยล่ะ ส่วนอีกฉากที่อยากให้ดูนั้นก็คือฉากในบ้านตอนกลางคืน ฉากนี้บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
ส่วนในเรื่องของนักแสดงนั้นก็ทำออกมาได้ดี ชอบในตัวละครของน้องสาวคนเล็กมาก ที่มีทั้งความน่ารักปนกวนประสาท และใจกล้ากว่าพี่สาวเยอะเลย 555
แต่โดยรวมนั้นก็ออกมาดี และเผลอ ๆ อาจจะมีภาคต่อก็เป็นไปได้สำหรับหนังเรื่องนี้ และใครที่เป็นคอหนังสยองขวัญและชอบในความเป็นของ สตีเวน คิง เลย
การเซตติ้ง การนำเสนอของเรื่องนี้
ในส่วนของเซตติ้ง การนำเสนอ เรารู้สึกเอนจอยกับความสยองขวัญที่ไม่ได้เห็นกันแบบชัด ๆ แต่มักจะมาด้วยเสียงในความมืด และ มุมกล้อง และบวกกับ Jumpscare
และบทสนทนา คำบอกเล่าของตัวละคร ซึ่งมันทำให้เราเชื่อว่า บูกี้แมน มันน่ากลัวมาก ๆ แม้จะไม่ค่อยได้เห็นตัวมันแบบชัด ๆ เต็ม ๆ ตาก็ตาม
และเป็นหนัง The Boogeyman ตัวละคร สยองขวัญดูเอาสนุก ฆ่าเวลาได้ดี หนังมี 93 นาทีเอง ส่วนตัวคิดว่า ถ้าให้จำกัดความ คงเป็นหนังผีฝรั่ง Jumpscare ที่จบลงด้วยความเป็นหนังสไตล์ Aliens คนสู้ตัวประหลาด ที่แอดมินเห็นหน้าน้องนางเอก แล้วก็พาลนึกถึง ซิกกอนีย์ วีเวอร์ ในหนังเรื่องดังกล่าวขึ้นมาแว้บ ๆ เลย 555
บูกี้แมนคือตำนานอย่างหนึ่งของคนอเมริกัน ในส่วนมากเขาจะเล่าเอาไว้หลอกให้เด็กๆ กลัว ถึงปีศาจที่คอยซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าหรือใต้เตียง เรื่องนี้ก็ถือเป็น Urban Legend ที่ดังมากอีกเรื่องเลยล่ะ หนังส่วนมากก็ชอบพูดถึง พี่ Stephen King ก็เคยเอาไปผูกเป็นเรื่องสั้น
แต่กับหนังเรื่องนี้แล้ว ผลที่ได้กลับไม่ได้น่าพอใจอะไร แค่ธรรมดาน่ะ เนื้อหาจะว่าไปมันก็ใกล้ๆ เคียงๆ กับ Darkness Falls น่ะ แต่ผมว่าเรื่องนั้นยังมันส์กว่าเลยนะ อย่างน้อยฤทธิ์เดชเดชาของปีศาจทู๊ทแฟรี่ในเรื่องนั้นยังยิ่งใหญ่กว่าพี่บูกี้ตั้งเยอะ
จริง ๆ ตัวหนังมันก็เข้าท่าบ้างในเรื่องของบรรยากาศ เพราะโลกในหนังมันดูเป็นโลกที่หม่นหมองและน่ากลัวแบบลึกๆ มีแต่หลืบมีแต่มุม ไม่มีทางรู้ว่าจะมีตัวบ้าชนิดไหนปรากฎขึ้นมาบ้าง เพียงแต่ผู้กำกับ Stephen T. Kay เห็นทีจะยังมือไม่แม่น
เพราะแม้โทนของหนัง เดอะบูกี้แมนสนุกไหม มันจะไม่เลว แต่ความตื่นเต้นระทึกขวัญดันนิ่งราบไม่มีเอาซะเลย ดีไม่ดีจะมึนซะด้วย เพราะดูเหมือนเจ้าปีศาจบูกี้ตนนี้จะเน้นโจมตีที่จิตของเหยื่อมากกว่าจะมาแหวะ
สรุปแล้ว ก็ไม่ไ่ด้เฉียบเจ๋งอะไรหรอกนะ ออกจะน่าผิดหวังด้วย การแสดงก็ไมไ่ด้น่าชื่นชมอะไร การเดินเรื่องก็แค่ค่อนข้างวกๆ วนๆ ไม่ได้ชวนตื่นเต้นนะฮะ มันชวนมึนกบาลมากกว่า ลีลามันคล้ายๆ พี่ Brian De Palma น่ะ ชอบเอาอารมณ์และความคิดคนดูมาขยำไปมา
แต่ในบทสรุปยังไงๆ พี่แกก็สามารถดึงให้คนดูกลับมาสู่โลกแห่งความจริงได้ และทุกปริศนาก็ต้องกระจ่างหมด แต่กับเรื่องนี้ มันขยำทั้งเรื่องก็จริง ดึงคนดูกลับมาก็จริง
แต่เรื่อง เดอะบูกี้แมน pantip การเร้าอารมณ์นี่ต้องบอกว่านิ่งมาก ขยำให้มึนอย่างเดียว แต่ความตื่นเต้นไม่มี ความสยองน้อยจนแทบไม่เจอ ไม่ได้ชวนคล้อยตามแต่อย่างใดจริง ๆ ใครที่เป็นสายชอบดูหนังผีสยองขวัญ เรื่องนี้ไม่ควรพลาดกับความหลอนในเรื่องนี้เลย