รีวิว The Hunt โหดได้สมใจยี่ห้อ
VIDEO
นับว่าเป็นหนังที่ดราม่าน่าสงสารมากซวยซ้ำซวยซ้อน ยูนิเวอร์แซลวางกำหนดฉายแรกไว้ตั้งแต่ 27 กันยายน 2019 ก็พอดีช่วงนั้นชาวอเมริกันยังรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุกราดยิงที่ เดย์ตัน และ เอลปาโซ ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2019 ยูนิเวอร์แซลก็เลยเลื่อนไปฉาย 13 มีนาคม 2020 ก็พอดีเป๊ะกับช่วงที่ โควิด-19 แพร่ระบาดพอดี แม้ว่าตัวอย่างหนังที่โหดเลือดสาดจะเรียกความสนใจคนดูได้จำนวนมาก แต่ผู้คนก็ยังหวาดเกรงกับไวรัสเลยไม่ออกมาซื้อตั๋วดูหนังกัน ผลก็คือหนังทำรายได้ไปแค่ 9 ล้านเหรียญเท่านั้น จากทุนสร้าง 14 ล้านเหรียญ ยูนิเวอร์แซลก็เลยตัดสินใจปล่อยให้เช่าดูออนไลน์ภายในสัปดาห์ถัดมาหลังจากหนังเข้าฉายโรงกันไปเลย ดูได้ที่ ดูหนัง
เนื้อเรื่องหนังที่ว่าด้วย คนล่าคนในป่าเพื่อความสนุกนั้นก็ไม่ใช่พลอตแปลกใหม่ ฮอลลีวูดสร้างหนังแนวนี้ออกมาอยู่บ่อย ๆ ย้อนไปเรื่องแรก ๆ ก็ The Most Dangerous Game (1932) ส่วนที่ฮิตกันไปทั่วโลกก็อย่าง The Hunger Games นั่นแหละ แต่เมื่อ The Hunt เป็นหนังที่สร้างโดยค่าย BlumHouse ค่ายหนังสยองขวัญ ฉะนั้นก็ต้องเน้นฉากโหดเลือดสาดเพื่อตอบสนองคอหนังแนวนี้โดยเฉพาะ แล้วก็ต้องบอกว่า The Hunt ตอบสนองคอหนังโหดได้อย่างน่าพอใจ เพราะหนังเต็มไปด้วยฉากโหด มีฉากฆ่ากันตายให้เห็นกันแบบถี่ ๆ แล้วตายแบบสยดสยอง อี๋ แหยะ สุด ๆ
หนังเรื่องนี้ถูกสร้างมาตามนโยบายของ Blumhouse คือเน้นทุนสร้างต่ำ นักแสดงส่วนใหญ่จึงโนเนม แต่ใน The Hunt เราก็ยังได้เห็นดาราขายชื่อได้อย่าง ฮิลลารี แสวงค์ มาเป็นชื่อขาย พ่วงมาด้วย เอ็มมา โรเบิร์ต แต่ที่น่าตลกก็คือ ฮิลารี สแวงค์ มารับบทเป็น อาเธนา บอสใหญ่ของบริษัทผู้จัดเกมคนล่าคน เกมที่ให้มหาเศรษฐีต้องจ่ายเงินก้อนโตเพื่อมาเล่นเกมล่าชีวิตคนจริง ๆ กลุ่มใหญ่ แต่หนังเปิดตัวอาเธนา ในแบบลึกลับถ่ายให้เห็นแค่ครึ่งล่างของเธอ กว่าจะไปเผยตัวก็ในช่วงท้ายของหนัง ซึ่งหนังก็โฆษณาชื่อเธอแบบโจ่งแจ้งอยู่แล้ว พอมาทำปิดบังในหนังมันก็เลยดูเป็นการทำงานสวนทางกันจังระหว่างทีมประชาสัมพันธ์ กับทีมผู้สร้างหนัง จะมาปิดบังหน้าตาไปทำมั้ย ทั้งที่มันไม่ได้สร้างความเซอร์ไพรส์เอาเสียเลย
หนังเรื่องนี้ใช้เวลาปูเนื้อหาความไม่นาน ฉากไล่ล่าก็เริ่มตั้งแต่ต้นเรื่องเลย เป็นการเปิดเรื่องได้น่าสนใจ เพราะเล่นกับการคาดเดาของคนดูที่คุ้นเคยกันดีกับหนังแนวนี้ ว่าไม่นานบทหนังจะต้องเผยตัวเอกของหนังที่เป็นหนึ่งในกลุ่มเหยื่อนี่ล่ะ ที่จะต้องเก่งกาจเหนือคนอื่นแล้วออกมาเอาคืนกับบรรดาเศรษฐีโรคจิตเหล่านี้ ตรงนี้ล่ะที่ล่อหลอกกับการคาดเดาคนดูได้ดี ว่าน่าจะเป็นคนนี้มั้ง คนนั้นมั้ง ซึ่งกว่าจะเผยตัวเอกจริง ๆ ก็ผ่านไปนานพอดู กับการที่หนังเลือกใช้นักแสดงที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาก็เลยทำให้การคาดเดานี้เป็นไปด้วยความสนุก เพราะไม่มีนักแสดงที่คุ้นหน้าในกลุ่มเหยื่อ เราก็เลยเดาจากชื่อเสียงของดาราไม่ได้
รีวิว The Hunt โหดได้สมใจยี่ห้อ
ถ้าใครที่เคยดูหนังในแนวการล่าฆ่ากันมาบ้างแล้ว ก็ต้องบอกว่า The Hunt เลือกเล่าเรื่องในทิศทางที่ต่างจากเดิม แม้ว่าหนังจะเปิดเรื่องในป่า เหยื่ออยู่ในที่โล่ง ส่วนผู้ล่าอยู่ในที่ลับ คอยซุ่มยิงบรรดาเหยื่ออย่างสนุกสนาน แต่ผ่านไปครู่เดียว บรรดาเหยื่อก็แตกกระสานซ่านเซ็นกันไปคนละทิศคนละทาง ทำให้หนังพ้นขีดจำกัดในเรื่องสถานการณ์ปิดล้อม แต่กลายเป็นเกมไล่ล่าในพื้นที่เปิดกว้างไม่มีขอบเขตจำกัด ก็เลยทำให้บทหนังในทิศทางนี้ได้อย่างเสียอย่าง ส่วนที่เสียไปก็คือความตึงเครียดกดดันกับการได้เห็นชะตากรรมของเหยื่อที่ต้องรอคอยความตายในพื้นที่จำกัด แต่สิ่งที่ได้มาก็คือความคลุมเครือ เมื่อเหยื่อสามารถหนีไปไหนก็ได้ แต่ไม่รู้ตัวเองว่าอยู่ในพื้นที่ส่วนไหนของโลก แล้วผู้คนที่พวกเขาเจอะเจอระหว่างทางเพื่อขอความช่วยเหลือนั้น เป็นชาวบ้านจริง ๆ หรือว่าเป็นพรานผู้ล่าที่เล่นละครตีเนียนแล้วหาจังหวะสังหารเหยื่อที่หลงกล บางทีผู้ล่าก็ปลอมตัวมาปะปนอยู่ในเหยื่อด้วยก็มี ตรงนี้เราก็เลยได้ความสนุกกับการดูไปเดาไป ว่าไอ้คนนี้คนนั้นจะเป็นชาวบ้านจริงหรือเป็นพรานกันแน่ มีฉากแบบนี้โผล่มาบ่อย ๆ เดากันถูกบ้างผิดบ้าง บางฉากก็ไม่เฉลยนะว่าตกลงไอ้คนนี้มันเป็นเหยื่อหรือว่าผู้ล่าปลอมตัวมากันแน่ เน้นย้ำเลยว่าฉากร้านมินิมาร์ตเล่นกับการคาดเดาคนดูได้สนุกมาก ก็ต้องย้อนไปชื่นชม เดมอน ลินเดลอฟ มือเขียนบทขาเก๋าของวงการ ที่สร้างชื่อมาจาก Lost ซีรีส์ลึกลับระดับตำนาน ก็นับว่าฝีมือของ เดมอน ยังเชื่อถือได้ ยังสอดแทรกความลึกลับมาในบทหนัง เล่นกับการคาดเดาของคนดูได้ดี ไปรับชมเลยที่
ดูหนังออนไลน์
หนังเรื่องนี้มีความแผ่วลงอย่างรู้สึกได้ในครึ่งหลัง เมื่อจำนวนเหยื่อลดน้อยลง แล้วเหยื่อเริ่มเปลี่ยนสถานะกลับมาเป็นผู้ล่าบ้าง คุยกันเยอะขึ้น ฉากแอ็กชันน้อยลง แต่ก็ยังมีฉากใหญ่ให้ได้เห็นกันอยู่บ้าง แต่กับฉากไคลแมกซ์ท้ายเรื่อง ก็ยังไม่น่าประทับใจนัก เหมือนกับว่าบทหนังมีโจทย์บังคับว่าต้องให้ อาเธนา บอสใหญ่ออกโรงมาปิดท้ายเรื่องให้ได้ มันก็เลยให้ความรู้สึกเหมือนดูหนัง แอ็กชันของนักสู้สาวแนว ๆ Atomic Blonde, Colombiana หรือ Everly แนว ๆ นั้น ซึ่งก็รู้ ๆ อยู่แล้วล่ะว่าใครจะชนะ แต่ก็ดูไปว่าจะใช้ท่าเผด็จศึกสุดท้ายอย่างไร
รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก
ภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมเมดี้ที่คุ้นเคยแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพพร้อมการแสดงจังหวะที่รวดเร็วและการเสียดสีที่ดีซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเมืองอเมริกันอย่างตรงไปตรงมา มีนโยบายทุกอย่างที่นี่ กับตำแหน่งทางการเมืองทุกตำแหน่งที่เป็นเป้าหมาย และนั่นสร้างมาเพื่ออารมณ์ขันที่ดี อย่างน้อยก็เท่าที่ฉันกังวล มีความรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด โดยเริ่มต้นด้วยฉากการตายและฉากช็อกมากมาย ก่อนที่จะกลายเป็นหนังระทึกขวัญการแก้แค้นที่นำโดยผู้หญิงสู่จุดไคลแม็กซ์ นอกเหนือจาก Hilary Swank แล้ว นักแสดงส่วนใหญ่ไม่เป็นที่รู้จัก แต่พวกเขาก็ทำได้ดีมากที่นี่ มันไม่ใช่หนังที่น่าทึ่งแต่มันสร้างความบันเทิงให้ฉันตลอด ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี
กลุ่มชาวอเมริกันจากทั่วประเทศถูกลักพาตัวและบินไปยังที่ที่ไม่รู้จักเพื่อถูกล่าจนตาย คริสตัล (เบ็ตตี้ กิลพิน) หนึ่งในผู้ถูกล่า ฉลาดกว่าด้วยประสบการณ์ทางการทหาร เธอพบนักล่าและล่าสัตว์ไปพร้อมกัน ชื่อใหญ่ที่นี่คือ Damon Lindelof ฉันไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกับวัสดุมากแค่ไหน ฉันคาดหวังที่ดีกว่าจากเขา ฉันสามารถเห็นคนเหล่านี้คิดแนวคิดนี้และเรียกมันว่าสิบเอ็ด ฉันไม่รู้สึกถึงอารมณ์ปิดของคริสตัล ฉันรักการฆ่าในช่วงต้น มันเป็นเรื่องที่กลับไปกลับมา ฉันยังคงอยู่ในรั้วรอบสุดท้ายการกระทำ มีหลายครั้งที่ฉันเห็นว่างานเขียนดีขึ้นหรือมีโอกาสพลิกผันที่ดีขึ้น คริสตัลอีกแห่งเป็นเหมืองทองคำสำหรับการบิดและตลกซึ่งเหลืออยู่บนโต๊ะ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกลายเป็นเรื่องตลกที่แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ของหนัง ในที่สุด ฉันก็ต้องปล่อยมันไป อย่าลืมไปรับชมที่
ดูหนังฟรี
กลุ่มชนชั้นสูงตามล่า “ผู้เคราะห์ร้าย” ที่เชื่อว่ามีกลุ่มชนชั้นสูงที่ตามล่า “ผู้เคราะห์ร้าย” เช่นเดียวกับการไล่ล่าทั้งหมด ผู้ถูกล่าจะกลายเป็นผู้ล่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นที่สัตวแพทย์คริสตัล (เบ็ตตี้กิลพิน) ฉันชอบมันเป็นหนังล่าสัตว์และมองข้ามความคิดเห็นทางการเมืองที่ผิดไปจากเดิม สิ่งที่เลวร้ายที่สุดเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้คือการแนะนำตัวละครให้ใกล้ถึงจุดจบมากเกินไป สคริปต์ต้องการการทำงานบางอย่าง คู่มือ: F-word. ไม่มีเพศหรือภาพเปลือย 3 1/2 ดาว
ใช่ นี่เป็นการเปรียบเทียบอย่างที่ใครบางคนได้เขียนไว้แล้ว (หรืออาจมีมากกว่าหนึ่ง) และสำหรับเงินของฉัน มันค่อนข้างฉลาดทีเดียว ไม่ใช่ข้อความโดยรวม ไม่ใช่เรื่องราวที่มีโครงสร้างเรียบง่าย แต่เป็นเลเยอร์ภายใน สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในทางที่นองเลือดและรุนแรงมาก (เป็นภาพยนตร์และมีการเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังสามารถทำให้เกิดความปั่นป่วนได้บ้างจึงต้องเลื่อนออกไปหลาย ๆ ครั้ง) สิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกาโดยเฉพาะ แต่ในทางทั่วโลกโดยรวม แม้ว่าระบบสองพรรคจะมีลักษณะเฉพาะในอเมริกา – และใช่ ฉันรู้ว่าที่ปรึกษาอิสระสามารถลงคะแนนเสียงได้ และในทางเทคนิคแล้วมีโอกาสที่จะเป็นประธานาธิบดีโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกของพรรคเดโมแครตหรือรีพับลิกัน
ทุกคนรู้ดีว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้น อนาคตอันใกล้. บางทีสักวันหนึ่ง – อาจจะมีฝ่ายให้เลือกมากกว่านี้ด้วย แค่ฉันมองเห็นพรรคเดโมแครตเป็นอันดับแรกในย่อหน้าข้างต้น แต่จะทำให้บางคนกระสับกระส่ายและรู้สึกตื่นเต้นและได้ข้อสรุปจากเรื่องนี้ ฉันไปตามลำดับตัวอักษร และตัวหนังเองก็ไม่ได้จับขังคุกหรือทำให้ฝ่ายหนึ่งดูเหนือกว่าอีกฝ่ายมากนัก คุณสามารถทำคดีนี้และบทบาทผู้ถูกล่าและนักล่าสามารถย้อนกลับได้ – แต่อย่างที่เป็นอยู่ มันสนุกกว่าและเหมาะกับสถานการณ์ที่อเมริกาเป็นอยู่มากกว่า ดังนั้นจงเอาเกลือเม็ดหนึ่งมา
ยอมรับว่าไม่มีใครถูกตลอดเวลา – และรับความบันเทิง ไม่ต้องคิดมาก แค่สนุกไปกับมัน แต่ถ้าทำได้ก็อาจจะยกระดับได้ และการแสดงอันทรงพลังโดยเฉพาะจากนักแสดงนำหญิงสองคนและ “ศัตรู” … เหนือความคาดหมาย และหากยังไม่พอ ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้คุณตัดสินใจว่าคำตอบสำหรับคำถามบางข้อคืออะไร! เธอเป็นใคร? คุณสังเกตเห็นสิ่งใดในพฤติกรรมของเธอที่จะช่วยตอบคำถามนั้นหรือคุณคิดว่าคุณทำอย่างนั้น? มันไม่สำคัญ? การสรุปอย่างรวดเร็วอาจทำให้เราตาย (a) … อย่างแท้จริงที่นี่
สรุปง่ายๆว่า The Hunt โหดได้สมกับเป็นหนังยี่ห้อ BlumHouse เล่นสนุกกับการคาดเดาได้ดี เรื่องราวระหว่างทางสนุกกว่าฉากไคลแมกซ์ปราบบอส และแนะนำว่าอย่าพยายามไปใฝ่รู้ว่าใครคือตัวเอกของหนัง ก็จะสนุกไปกับการคาดเดาว่าเหยื่อคนไหนหนอ ที่จะเป็นตัวเอกของเรื่อง
ในส่วนที่น่าสนใจของเรื่องนี้เล่นกับการคาดเดาคนดูได้ดี ต้องเดาว่าคนไหนเป็นชาวบ้านจริง คนไหนเป็นผู้ล่า เอาใจคอหนังสายโหดได้อย่างน่าพอใจ แต่ละรายตายกันแบบโหดเลือดสาด หนังเข้าฉายช้าไปมาก หลังจากที่ยูนิเวอร์แซล ปล่อยให้เช่าดูมาตั้งแต่มีนาคม ในส่วนที่น่าสังเกต
ครึ่งหลังแผ่วไปหน่อย ฉากไคลแมกซ์เปลี่ยนจากหนังไล่ล่า กลายเป็นหนังฮีโรสาวไปซะงั้น ชอบการรีวิวของเรา อย่าลืมติดตามการรีวิวของเราด้วยนะคะ ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง