รีวิว Monster Hunter หนังจากเกมจะมีรอดบ้างไหม

เอาละวันนี้มาแนงหนังที่สร้างมาเกมบ้างครับ พูดแล้วก็เหนื่อยนะครับไม่รู้ว่าทำไมหนังที่สร้างมาจากเกมส่วนใหญ่แล้วเนี่ยผลที่ออกมาทำไมมันไปทางด้านลบมากกว่าด้านบวก เอาจริงๆถ้าถอดสมองดูไม่รู้จักเกมมาก่อนมันก็สนุกระดับนึงนะครับ เพียงแต่คอเกมเมอร์ใครมันจะไปทำได้กัน อย่างน้อยมันก็ต้องรู้จักกันมาบ้างถึงจะไม่รู้จักเนี่ย แต่หนังมันหยิบอะไรมาทำมั่วจนแบบ แบบนี้ก็ได้หรอวะประมาณนี้เลย ครับผมส่วนจะเป็นยังไงเราไปลุยกันเลยดีกว่าครับผมม ไปดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

หลังจากจบจากซีรีส์หนังในเรือ่ง Resident Evil ก็แทบจะนับหนังที่สร้างจากวิดีโอเกมแล้วประสบความสำเร็จได้ยากเหลือเกิน และด้วยว่าหลัง Resident Evil The Final Chapter เมื่อปี 2016 พอล ดับเบิลยูเอส แอนเดอร์สัน และ มิลลา โจโววิช ก็ยังไม่มีผลงานร่วมกันจนกระทั่งไม่นานมานี้ก็ประกาศว่าพวกเขาและทีมงาน Resident Evil ก็ได้ตกลงหยิบเกมคลาสสิกของ CAPCOM อย่าง Monster Hunter มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยมี จา พนม ยีรัม นักแสดงสายบู๊ชาวไทยในบทนำร่วมกับเจ๊มิลลาภรรยาบักพอล

ในตัวหนังนั้นเริ่มเรื่องด้วยซีนโลกคู่ขนานอันมืดหม่นเมื่อเรือเดินทะลทรายต้องมีอันอัปปางกลางทะเลทรายจากการโจมตีของอสูรร้ายแล้วหนังก็ตัดสลับไปที่ทหารหน่วยรบพิเศษนำโดยอาร์ทีมิส (มิลลา โยโววิช) ที่พาลูกน้องมาค้นหาทหารที่หายตัวไปก่อนหน้านี้แต่โดยไม่ทันตั้งตัวพวกเขาก็ถูกคลื่นไฟฟ้าลึกลับดูดพวกเขาไปยังอีกมิติและต้องเผชิญกับอสูรร้ายที่คร่าชีวิตพวกเขาไปทีละคนเหลือไว้เพียงอาร์ทีมิสที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดจนเธอได้พบกับฮันเตอร์ (โทนี จา) และทั้งคู่ก็ร่วมกันต่อกรกับอสูรร้ายเพื่อเอาชีวิตรอดให้จงได้

และก็ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงเล่นดนตรีหยอก ๆ ล่ะนะเชื่อว่าหลายคนสงสัยว่า Monster Hunter ซื่อสัตย์กับเกมแค่ไหนก็ตอบได้เลยว่า Resident Evil เคยยำฉบับเกมไว้ยังไง Monster Hunter ก็ไม่ต่างกันเนื่องจากเกมกับหนังการเล่าเรื่องอาจใกล้เคียงกันแต่ก็ไม่อาจเอามาทาบกันสนิทได้ ดังนั้นผู้กำกับอย่างพอล ดับเบิลยูเอส แอนเดอร์สันก็เลยเอาต้องเอาสูตรของหนัง Predator (1987) มายำรวมกับซีนแอ็กชันแบบซีรีส์ Game of Thrones ผสมความเว่อร์วังภาพสโลว์โมชันแบบ Resident Evil อื้อหือสุดท้ายออกมาจับฉ่ายมากครับ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

รีวิว Monster Hunter หนังจากเกมจะมีรอดบ้างไหม

และคือผมต้องบอกไว้เนิ่น ๆ แบบนี้ไม่ใช่อะไรนะครับคือเชื่อเลยว่าแค่ 10 นาทีแรกหนังมันก็เลือกคนดูแล้วครับว่ารับได้ไหมถ้าต้องดูอะไรมั่วซั่วแบบนี้ ถ้ายังไม่เห็นภาพลองย้อนกลับไปอ่านเรื่องย่อที่เราเขียนใหม่นะครับที่เห็นผมเขียนว่าเริ่มด้วยเรืออัปปางกลางทะเลทรายน่ะ หนังไม่แม้แต่จะอธิบายนะครับว่าในเรือเนี่ยมีใครบ้างและแต่ละตัวจะรอดจนอยู่ในเรื่องไหม แล้วภาพก็เฟดไปเลยทิ้งคนดูให้งงเต็กว่าเพิ่งดูอะไรไปหว่า ฮ่าาาาา อย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

แล้วก็ไม่เกินอึดใจในเมื่อโปสเตอร์บอกไว้แล้วว่ามีมิลลา โยโววิช AKA Mia Phu Kum Kub (เมียผู้กำกับอ่ะแหละ จะเขียนเป็นคาราโอเกะเพื่อ ?) หนังก็เลยเปลี่ยนเกียร์ไปเล่าเรื่องทหารกลุ่มหนึ่งที่มีเจ๊มิลลา โยโววิชที่เป็นผู้บังคับบัญชานาม อาร์ทีมิสซึ่งหนังลากยาวไปกับฉากเล่นมุกระหว่างสหายลายพรางที่พูดถึงวีรกรรมของเจ๊อาร์ทีมิสและส่องกล้องหาคนหาย..เล่นมุก…ส่องกล้อง..หาคนหาย…เวียนวนอยู่ร่วม 10 นาทีกว่าไอ้แสงประหลาดจะมาช่วยชีวิตผู้ชมและพาพวกมันไปเจอมอนสเตอร์มุดดินเสียที

และหลาย ๆ คนก็คงคิดว่าจากนี้หนังจะให้เราเห็นการเอาชีวิตรอดของเหล่าทหารหาญและเล่นดราม่าชีวิตครอบครัวเหมือนที่หนังปูไว้ปรากฎหนังใช้เวลาช่วงมอนสเตอร์กำจัดพวกเขาสั้่นกว่าไอ้ตอนทัวร์ทะเลทรายส่องกล้องซะอิ๊ก..ฮ่าาาาาา แต่เดชาบุญเหมือนพอล ดับเบิลยูเอส แอนเดอร์สัน แกก็คงกลัวบาปแหละเลยรีบพาเจ๊มิลลาเมียคนสวยไปพะบู๊กับพี่จา พนมของเราซักที

 

รีวิว Monster Hunter หนังจากเกมจะมีรอดบ้างไหม

 

แล้วก็อัดซีนแอ็กชันตื่นตาตื่นใจทั้งมิลลาซัดจาพนม (จนคนดูเหนื่อย) ไปจนถึงฉากวิ่งหนีมอนสเตอร์ซักพักข้ามฟากไปรวมพลมาไฝ่ว์กับมอนสเตอร์ตุ้บตั้บ ๆ จนหนังจบน่ะแหละ ซึ่งภาพรวมแล้วถ้าถามว่าหากคุณต้องการหาหนังแอ็กชันซัดมอนสเตอร์ตัวยักษ์ตูมตาม Monster Hunter ก็คงตอบโจทย์ได้ไม่ยากน่ะแหละเพราะด้วยคุณภาพของงานสเปเชียลเอฟเฟกต์ที่ทำได้ไม่ขี้เหร่เลยและน่าจะเป็นหนังฟอร์มยักษ์ไม่กี่เรื่องของปีนี้ที่รู้สึกเลยว่าซีนแอ็กชันแฟนตาซีดูใหญ่และทำได้ถึงใจจริง ๆ

ส่วนสาวกแฟนเกมต้นฉบับอันนี้ต้องทำใจล่ะเพราะนอกจากชื่อมอนสเตอร์ คอสตูมของพี่จา พนมและตัวละคร NPC (ตัวละครในเกมที่ไม่ได้ถูกบังคับโดยผู้เล่น) อย่างแมวพ่อครัวแล้วหนังก็เหมือนผิดกลิ่นจากเกมไปสิ้นเชิงดังนั้นเราอาจจะต้องเรียกหนังอย่าง Monster Hunter เป็นเหมือนเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจจากเกมซะมากกว่าซึ่งข้อดีก็คือมันน่าจะช่วยให้คนไม่เคยเล่นเกมอยากหาเกมมาเล่นมากขึ้นและเห็นเสน่ห์ของเกมตำนานเกมนี้ได้ไม่ยากเลยครับ

แต่กระนั้นสิ่งที่น่าจะทำให้ผู้ชมได้รับความบันเทิงได้เต็มที่จริง ๆ ก็คือการมีอยู่ของพี่จา พนมนี่แหละครับเพราะต่อให้หนังเอาพี่จาเรามาแต่งตัวประหลาดแถมให้สวดมนต์ด้วยภาษามั่ว ๆ จนดูตลกแต่ซีนแอ็กชันต้องยอมรับว่าแกเท่จริง ๆ นั่นแหละและดูแล้วเชื่อเลยว่าหากมอนสเตอร์ดุ ๆ บุกโลกแค่มีพี่จาอยู่เราก็น่าจะปลอดภัยแน่ ๆ ด้วยสกิลการโดดระดับชอลิ้วเฮียงผสมนักโดดสูงโอลิมปิกและคมดาบยักษ์ของแกซึ่งก็ถือว่าน่าภูมิใจที่คนไทยของเรากลายเป็นหนึ่งในข้อดีของหนังได้ขนาดนี้นะครับ

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

แรนเจอร์ อาร์เทมิส (มิลลา โจโววิช) นำทหารของเธอไปปฏิบัติภารกิจเพื่อค้นหาหน่วยที่หายไป พวกเขาถูกพายุทรายสายฟ้าลึกลับโจมตีและถูกส่งไปยังอีกโลกหนึ่ง มันเป็นโลกของสัตว์ประหลาดและนักล่าสัตว์ประหลาดเหมือนนักล่าท้องถิ่นนิรนาม (โทนี่จา) เห็นได้ชัดว่านี่เป็นวิดีโอเกม ฉันไม่คุ้นเคยกับมัน ค่อนข้างตรงไปตรงมา ฉันไม่คุ้นเคยกับวิดีโอเกมที่ใหม่กว่า ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

 

แต่ฉันคุ้นเคยกับผู้สร้างภาพยนตร์ Paul W.S. Anderson และ Milla Jovovich ภรรยาของเขา ความคาดหวังต่ำและภาพยนตร์เรื่องนี้แทบจะไม่ชัดเจน โจโววิช สบายดี เธอคุ้นเคยกับแอ็คชั่นแฟนตาซีประเภทนี้ แต่ฉันหวังว่าพวกเขาจะไม่มีเพลงประกอบ เมื่อเทียบกับภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวิดีโอเกมเรื่องอื่นๆ เรื่องนี้ก็ถือว่าใช้ได้

แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ฉันอยากให้อาร์ทิมิสเริ่มด้วยเคมีที่ดีขึ้นกับตัวละครของโทนี่ จา มันอาจจะดีกว่าถ้าให้ T.I. นานขึ้นอีกนิด ฉันไม่รู้ว่า The Admiral เป็นตัวละครจากเกมหรือเปล่า แต่เขาไม่ควรพูดภาษาอังกฤษเลย ตอนแรกฉันคิดว่าเขามาจากโลกของเรา คงจะดีกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเขาไม่ควรพูดภาษาอังกฤษ สรุปแล้วฉันไม่จำเป็นต้องดูเรื่องนี้อีก ครั้งเดียวก็เกินพอ

เมื่อพวกเขาประกาศหนังเรื่องนี้ ฉันต้องยอมรับว่าฉันตั้งตารอที่จะได้ดูมัน จริงอยู่ที่ฉันไม่ได้ลองเล่นเกม แต่ฉันคุ้นเคยกับแนวคิดของเกม แต่ในขณะเดียวกัน เสียงที่ด้านหลังหัวฉันก็ ‘มันมาจากเกมคอมพิวเตอร์’ และฉันต้องยอมรับว่าความกลัวที่มันจะกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่าง “Mortal Kombat”, “Super Mario Bros”, “Street” นักสู้”, “เทคเคน”

หรืออะไรประมาณนั้น ผมค่อนข้างกังวลว่ามันจะทรมานมาก ให้ฉันเป็นคนแรกที่บอกว่าหนังไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ควรจะเป็น แน่นอนว่ามันสร้างจากเกมคอมพิวเตอร์ เรื่องราวจึงไม่ได้มีหลายชั้นลึกหรือซับซ้อนเป็นพิเศษ อันที่จริง โครงเรื่องนั้นเรียบง่ายมากจนคุณปิดสมอง เอนหลังและเพลิดเพลินไปกับเอฟเฟกต์พิเศษ

ดังนั้น ผู้กำกับ Paul W.S. แอนเดอร์สันจัดการได้ดีพอที่จะเปลี่ยนเกมคอมพิวเตอร์อีกเกมหนึ่งให้กลายเป็นภาพยนตร์ได้ ยกนิ้วให้กับความสำเร็จนั้น แค่หวังว่าเขาจะไม่ใช้พลังมากเกินไปและจมลงไปที่พื้นเกิน 6 ฟุต เช่นเดียวกับที่เขาทำกับแฟรนไชส์ ​​”Resident Evil”

ใช่ นี่เป็นภาพยนตร์สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ อย่างแรกเลย และพวกเขาก็สามารถสร้าง CGI ที่น่าทึ่งจริงๆ ในภาพยนตร์ได้ เชื่อฉันสิ และไม่ว่าจะเล็กน้อยในแง่ของเนื้อเรื่อง พล็อตเรื่องและสคริปต์ก็ตามมาเป็นอันดับสอง “Monster Hunter” เป็นภาพยนตร์ที่ฉันสนใจเช่นกันเพราะ Tony Jaa นักศิลปะการต่อสู้ชาวไทยอยู่ในรายชื่อนักแสดง

 

รีวิว Monster Hunter หนังจากเกมจะมีรอดบ้างไหม

 

และฉันจะบอกว่าเขาได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดีสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ในขณะที่เขาเพิ่มองค์ประกอบที่แปลกใหม่มากให้กับภาพยนตร์ด้วยตัวละครและการแสดงภาพของตัวละครของเขา ตอนนี้ กับ Milla Jovovich คุณค่อนข้างจะรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะอะไร และเธอก็มอบสิ่งที่คุณคาดหวังจากเธอ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีรอน เพิร์ลแมนอยู่ในรายชื่อนักแสดงด้วย

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ฉันชื่นชอบเป็นพิเศษก็ตาม หากคุณชอบหนังแอคชั่นที่ดูแล้วตื่นตาตื่นใจซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องมีสมองเพื่อเตรียมพร้อมแล้วละก็ “Monster Hunter” คือหนังสำหรับคุณ แม้ว่ามันจะดูน่าติดตามและให้ความบันเทิง แต่มันก็ไม่ใช่ผลงานชิ้นเอกของภาพยนตร์ และไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ฉันเชื่อว่าจะกลับไปดูอีกเป็นครั้งที่สอง

เมื่อเรนเจอร์กลุ่มเล็กๆ ถูกเคลื่อนย้ายไปยังดินแดนที่ไม่รู้จัก และถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้อยู่ในโลกนี้ กัปตันอาร์เทมิส (มิลล่า โจโววิช อ่อนโยนแต่มีความสามารถ เหมือนทุกๆ ครั้งที่เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์ของสามีเรื่องหนึ่ง จริงๆ แล้วคือ เธอไม่เบื่อกับเรื่องนั้นแล้วใช่ไหม เรารู้ว่าเธอสามารถแสดงได้อย่างน่าทึ่ง)

 

 

และบทบาทนิรนามของโทนี่ จา ที่ทั้งคู่แยกตัวออกจากกลุ่มต้องทำงานร่วมกันเพื่อเอาชีวิตรอด เมื่อพิจารณาจากชื่อแล้ว เป็นสิ่งที่เข้าใจได้อย่างสมบูรณ์เมื่อคาดหวังสิ่งต่อไปนี้: สัตว์ประหลาด นักล่า และความขัดแย้งร้ายแรงระหว่างทั้งสอง และโดยสัตย์จริง ถ้านั่นเป็นสิ่งเดียวที่คุณต้องการจากสิ่งนี้ คุณก็อาจจะพอใจ

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้เขียน-ผู้กำกับ มีความจำเป็นต้องปรับความคาดหวัง ฉันไม่รู้ว่าใครทำให้อาชีพของ Paul W. S. Anderson ดำเนินต่อไป ผู้ชมแบบเขาทุกคนอย่างฉันหรือเปล่า (งงที่เขาหนีไม่พ้นเรื่องนี้ สงสัยว่าเมื่อไหร่เขาจะรับนิสัยแย่ๆ ขึ้นมาใหม่ โดยคิดว่าเขาคงจะไม่มีวันสร้างหนังที่ดีจริงๆ ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าแต่ละคน พวกเขาจะสนุกกับการดู)

ลักษณะที่แย่ที่สุดบางส่วนของเขาอยู่ในลักษณะนี้ และพวกเขาก้าวร้าวมากกว่าแม้แต่สิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดและใจร้ายที่สุด สิ่งที่แย่ที่สุดน่าจะเป็นกล้องสั่นแบบใช้มือถือ และ “ไม่มีที่ไหนในหนังสือกฎบอกว่าการตัดต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวินาที” การตัดต่อ (เห็นโดยเฉพาะในฉากแอ็คชั่น) คุณ * จะ * ออกไปพร้อมกับอาการปวดหัว

พูดตามตรง ฉันต้องสงสัยว่ามีคนกี่คนที่สามารถนั่งดูเรื่องทั้งหมดได้ในโรงภาพยนตร์ นับประสาการแสดง 3 มิติ แม้ว่านี่อาจไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูมา แต่ฉันคิดว่ามันมีศักยภาพที่จะเป็นอุปกรณ์ปรับทิศทางความยาวได้ เหมือนกับว่าระเบิดแฟลชระเบิดในการเคลื่อนไหวช้ามาก มีเลือดไหลที่มีประสิทธิภาพเล็กน้อย (โดยนัยสำหรับตัวละครของมนุษย์ รายละเอียดสำหรับส่วนที่เหลือ) และภาษาที่รุนแรงเล็กน้อย ฉันแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้เฉพาะกับแฟนตัวยงของอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือผู้ชายที่สมควรได้รับเครดิตมากที่สุด

เหมือนเดิมนะครับหากชอบการรีวิวของผม ก็อย่าลืมเกาะขอบโต๊ะติดตามการรีวิวของผมได้ที่นี้ที่เดียว เว็บรีวิวหนัง