รีวิวซีรีส์ Zombie Detective นักสืบซอมบี้

รีวิวซีรีส์ Zombie Detective นักสืบซอมบี้

 

 

สวัสดีผู้อ่านที่น่ารักทุก ๆ ท่านเช่นเดิม เป็นแนวแปลกใหม่เลยนะครับ เรื่องที่จะนำมาคุยกันวันนี้แบบว่า ตอนเหห็นครั้งแรกก็แบบ ผู้เขียนผู้สร้างนี้ก็เข้าใจคิดเหมือนกันนะครับ ฮ่า ๆๆๆ ในหลายปีที่ผ่านมา K-ZOMBIE ได้สร้างความประทับใจให้กับคอภาพยนตร์ คอซีรีส์สายซอมบี้มาก็มาก ชนิดที่ตั้งตารอคอยภาคต่อกันอย่างใจจดใจจ่อก็เคยมาแล้ว แต่สำหรับเรื่องนี้เป็น K-ZOMBIE

ที่แหวกแตกต่าง ฉีกทุกกฎของการเป็นซอมบี้อย่างสิ้นเชิง เพราะเขาขอเพียงแค่จดจำอดีตที่ผ่านมาให้ได้ มีชีวิตใกล้เคียงมนุษย์และไม่ต้องหิวบ่อย เท่านั้นเอง ซีรีส์แนว Human-Comedy เล่าเรื่องราวของซอมบี้ตนหนึ่ง ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่าง งงงวย พบว่าตัวเองไม่มีลมหายใจ ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด ผิวซีด ปากดำ เดินช้าจนน่าหงุดหงิดและหิวเนื้อสดจนตาลาย เขาใช้เวลา 1 ปีในการพยายามฝึกฝน

เลียนแบบการแสดงออกท่าทาง การพูด การเดินของมนุษย์ เขาอยากกลับไปเป็นมนุษย์อีกครั้ง จนโชคชะตาเล่นตลก ทำให้เขาได้สวมรอยอยู่ในคราบนักสืบ ตอนแรกก็เพื่อเลี้ยงชีพเท่านั้นหละ แต่เมื่อพบว่าเส้นทางนักสืบมีประโยชน์มากกว่านั้น การเป็นนักสืบของเขาจึงเป็นไปเพื่อ ตามหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของเขาเอง หากอยากดูต้องไปดูแล้วละที่ เว็บดูหนัง

 

 

พล็อตแปลกใหม่สายมุ้งมิ้ง ใครคาดหวังว่าจะได้ดูซอมบี้สายโหด ร้องคำราม ไล่กัดกินเนื้อคน หลบไปเลยจ้ะ เรื่องนี้เป็นซอมบี้สีเทา ๆ ที่แค่เผลอตัวกินกระต่ายดิบเข้าไปยังตกใจเอง โปสเตอร์ดูน่ากลัวดีนะ แต่ขอโทษค่ะซอมบี้ของเราเป็นซอมบี้สายคุณธรรมและอ้างว้าง เป็นซอมบี้ความจำเสื่อมที่ต้องเอาชีวิตรอดด้วยการหาเงินมาซื้อเนื้อดิบประทังชีวิต

และตามหาให้ได้ว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน เป็นซีรีส์คอมเมดี้ที่มีกลิ่นดราม่าอยู่ตุ ๆ เปิดฉากมาด้วยปริศนาดำมืด และการปรากฏตัวของซอมบี้หน้าตาดีตนหนึ่ง โผล่ขึ้นมาจากกองขยะที่ถูกนำมาทิ้งไว้บนภูเขา มึนงงกับชีวิตอยู่พักหนึ่ง จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร ตายได้ยังไงแล้วทำไมถึงฟื้นขึ้นมา ในสภาพศพของเดินได้แบบนี้ แต่ทำไงได้ล่ะในเมื่อมันฟื้นขึ้นมาแล้ว

 

 

ถึงอยากตายซ้ำให้มันรู้แล้วรู้รอด ก็ไม่สามารถตายได้อีก แถมยังหิวหน้ามืดจนจับกระต่ายกินเป็นอาหาร แต่สิ่งหนึ่งที่เขาบอกกับตัวเองก็คือ เขาจะไม่ยอมเป็นซอมบี้ที่กินคนเป็นอันขาด เป็นซอมบี้มีจรรยาบรรณซะด้วยนะ มีความฮากรุบกริบปนตลกร้าย ที่ให้ซอมบี้ต้องใช้ความพยายามทำตัวให้เหมือนมนุษย์ให้ได้ เพื่อความอยู่รอดและเครื่องยึดเหนี่ยวที่ทำให้ซอมบี้ตนนี้มุ่งมั่นจนสามารถ พูด เดิน จนทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้อย่างที่มนุษย์ทำก็คือ

ภาพของซุปเครื่องในที่นั่งจ้องมันอยู่ทุกวันเนื่องจากเป็นซอมบี้สายคอมเมดี้ เรื่องราวส่วนใหญ่ก็จะเป็นชีวิตของซอมบี้ที่จับพลัดจับผลู มาสวมรอยอยู่ในคราบของนักสืบชื่อ คิมมูยอง (ชเวจินฮยอก) ต้องทำงานทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาซื้อไก่ดิบ แม้แต่หากินกับเงินของเด็กซอมบี้ก็ยอม เป็นซอมบี้รักสะอาดที่ใส่ความฮามาตลอดทั้งเรื่อง เป็นความฮาเบา ๆ แบบน่ารักน่าหยิกปนน่าสงสาร

จนได้ร่วมงานกับ กงซอนจี (พัคจูฮยอน) นักเขียนรายการสืบสวนทางโทรทัศน์ จนกลายเป็นคู่หูนักสืบ คนกับซอมบี้ ความน่าสนใจให้ตามต่อของเรื่องนี้อยูที่ การตามหาอดีตและการสืบคดีฆาตรกรรมที่ทำท่าว่า พ่อซอมบี้ขี้อายอาจเกี่ยวข้องในคดีนี้บทมีความตลกร้ายที่อำพรางด้วยเรื่องเบาสมอง ดูเอาฮาอย่างเดียวก็ขำกลิ้งกันได้เลย

 

 

รีวิวซีรีส์ Zombie Detective นักสืบซอมบี้

แถมจะร้องว่าพ่อคุณเอ้ยช่างน่าเอ็นดูอะไรอย่างนี้ บทบางช่วงบางตอนไม่มีเหตุผลรองรับใดใดได้ ไม่ต้องไปหามันค่ะ มันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่พล็อตนี้มันผุดขึ้นมาแล้วละ แต่ในความฮาต่าง ๆ ที่บทใส่เข้ามาเนื้อในมันคือตลกร้ายดี ๆ นี่เอง สมมติว่าเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้จริง ซอมบี้ตนนี้ก็น่าสงสารเป็นที่สุด เนื้อเรื่องเล่าถึงความอ้างว้างโดดเดี่ยว และการพยายามจะมีชีวิต

การเป็นคนไม่เหมือนคนที่พยายามซะเหลือเกินที่จะปกปิดรอยแผลเอาไว้ไม่ให้ใครเห็นการที่เราควรจะเห็นคุณค่าในตัวเอง หาข้อดีของตัวเองให้เจอและใช้มันให้เกิดประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เป็นเรื่องหนักหนา เศร้าสลดที่อำพรางไว้อย่างดีด้วยบทเบาสมอง ที่ใส่มาอย่างพร่าวพราวตลอดทั้งเรื่องเนื้อเรื่องซ่อนปมของอดีตที่ถูกกระทำและมีทีท่าว่าจะโยงไปถึงคดีใหญ่ที่ปิดไม่ลง เอาละครับรับชมได้ที่ เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา

 

 

จนเป็นเหตุให้เกิดการฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่ยังไร้เบาะแสของฆาตรกร แฝงนัยของความจริงบนโลกที่เกิดขึ้นได้ เอาไว้ชัดเจนเลยว่า หน้าฉากของคนคนหนึ่ง ที่เราเห็นว่าเป็นคนดีและน่าสงสาร อาจไม่เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป เรียกได้ว่าเข้มข้นและน่าติดตามขึ้นเรื่อง ๆ เป็นซีรีส์หลากอารมณ์ ดูแบบไม่ต้องคิดมากก็ขำ ๆ ไปกับชีวติของซอมบี้ผู้อาภัพ แต่ถ้าดูแบบคิดตามไปด้วย

สาระมากมายแฝงอยู่ในเรื่องนี้ตลอดทั้งเรื่องเลยเชียวละ แทรกอารมณ์ด้วยภาพได้ดีมาก ส่วนตัวแล้วชอบซีรีส์ที่มีการสื่อสารด้วยภาพเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ ใช้การสื่อสารด้วยภาพเป็นสำคัญซะด้วยสิ ในทุก ๆ ตอนจะมีการสื่อสารด้วยภาพพร้อมบทบรรยายที่ คิมมูยอง หรือซอมบี้ตัวดีของเรานี่แหละ บรรยายความรู้สึกของตัวเองออกมา คลอไปกับภาพของเรื่องราวต่าง ๆ

ที่บอกเล่าเหตุการณ์ แทนความรู้สึกของพระเอก บางภาพอาจเรียกเสียงหัวเราะ จี้เส้น บางภาพดึงอารมณ์อ้างว้าง น่าเห็นใจ ซีรีส์เรื่องนี้มีความกลมกล่อม ลงตัวในแบบแปลก ๆ อยู่หน่อย ๆ มีความฮาปนเศร้าที่ที่ตีคู่กันไปอย่างลืมตัว คือลืมไปเลยว่าเนื้อแท้จริง ๆ มันเศร้านะแต่เอาฮาเข้าข่มซะมากกว่า มีความจิกกัดสังคมสองหน้า สะท้อนค่านิยมความเชื่อที่งมงายในแบบติดตลก ความเพ้อฝันที่อาจกลายมาเป็นเรื่องจริงของพี่เขยนางเอก และอะไรอีกหลาย ๆ ที่ซีรีส์เรื่องนี้ซ่อนเอาไว้เป็นดราม่าที่น่าดู เพียงแค่เรามองหามันให้เจอ

 

 

รีวิวจากคนดูทั่วโลก

มินิซีรีส์เกาหลี ‘Zombie Detective’ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความขบขันและความลึกลับ ละครเรื่องนี้ใช้สถานการณ์ซอมบี้ของนางเอกในวิธีที่ตลกที่สุด ตั้งแต่พยายามเลียนแบบมนุษย์ โฆษณาผลิตภัณฑ์แต่งหน้า ไปจนถึงความสัมพันธ์ของเขากับนางเอก ทุกอย่างทำได้ดี ไม่เกินขอบเขตของเรื่องไร้สาระ และรักษาสมดุลที่ดีระหว่าง ความขบขันและการกระทำ ความลึกลับยังเป็นสัมผัสที่ดีที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปชั่วขณะหนึ่ง เรื่องเล็กๆ น้อยๆ มีไม่มากนัก แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เรื่องสนุกขึ้น และ ให้เวลากับโครงเรื่องหลักเพื่อค่อยๆ เติบโต ในที่สุดการแสดงก็ยอดเยี่ยมจากทุกคนในทีม

ชายคนหนึ่งตื่นขึ้นมาในกองขยะโดยที่จำไม่ได้ว่าเขาไปถึงที่นั่นได้อย่างไร และที่แย่กว่านั้นคือตอนนี้เขากลายเป็นซอมบี้ที่หิวกระหายเนื้อมนุษย์ เขาสวมบทบาทเป็นนักสืบที่ ถูกฆาตกรรมและพยายามค้นหาอดีตของเขาด้วยความช่วยเหลือจากผู้หญิงเจ้าชู้ในขณะที่พยายามระงับความหิวโหยของเขา ไอเดียที่น่าสนใจพร้อมนักแสดงที่ยอดเยี่ยม ทำให้เรื่องราวดำเนินไปตลอดทั้งสิบสองตอน และบางช่วงเวลาที่น่าขบขันก็ทำให้การดูโอเค

สิ่งแรกที่ฉันสังเกตเห็นเกี่ยวกับภาพนี้: ภาพที่น่าอัศจรรย์ และนี่คือเหตุผลหลักที่ฉันให้คะแนนเรื่องนี้สูงมาก มันมีสัญญาและมันเริ่มต้นได้ดีมาก แต่พี่สาวทำลายละครทั้งหมดให้ฉันด้วยการแสดงเกินจริงของเธอ ฉันไม่โทษนักแสดง มันเป็นบทบาทของเธอ เธอไม่ใช่บทบาทที่แย่เพียงอย่างเดียว แต่แย่ที่สุดอย่างแน่นอน ในความพยายามที่จะทำให้ละครสนุกขึ้น

พวกเขาทำให้ตัวละครบางตัวเกินจริง มันไม่ได้ผลอย่างแน่นอน ฉันจะให้คะแนนกับ 7 ดาวถ้าไม่ใช่เพราะอารมณ์ขันที่โง่เขลา เป็นเรื่องน่าละอายเพราะมีบางส่วนที่มีอารมณ์ขันดีและเข้ากับด้านมืดของละครมากกว่า ดังนั้นคุณภาพการผลิตแทบไม่ได้ 6 ดาวเลย

ใครยังไม่ได้ดู เริ่มดูได้เลย เชื่อฉันเถอะว่าคุณไม่สามารถจินตนาการถึงสิ่งที่รอคุณอยู่ได้.. นักแสดง ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ พนักงานแต่งหน้า ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างผลงานชิ้นเอกชิ้นนี้ รวมเรื่องสั้นเรื่องเดียว..แดบัก!!!! และใช่!! Choi jin hyuk เป็นซอมบี้ที่ร้อนแรงที่สุดตลอดกาล

นี่เป็นสิ่งที่ดีและ 8 เป็นเรตติ้งที่ยุติธรรมเนื่องจากมันล่าช้าใน 3 ตอนล่าสุดที่ยังคงเป็นซีรีส์ Asian Zombie ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยดูมา ตัวละครทั้งหมดแสดงได้ดีแม้กระทั่งพี่สะใภ้ที่น่ารำคาญ ซึ่งมีส่วนที่ยากที่สุดก็ทำได้ดี ดูเหมือนจะตั้งค่าสำหรับซีซัน 2 แต่เรตติ้งอาจไม่รับประกัน

Kang Min-ho (Choi Jin-hyuk) ตื่นขึ้นมาในพื้นที่ทิ้งขยะอันตรายโดยที่จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือเขาไปถึงที่นั่นได้อย่างไร สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือเขาค้นพบว่าเขายังไม่ตายหรือตายโดยสมบูรณ์ เขาเป็นซอมบี้ ในการพิจารณาว่าเขามาอยู่ในสภาพปัจจุบันได้อย่างไร เขารู้ว่าเขาต้องสามารถ “ผสมผสาน” กับมนุษย์ได้ ดังนั้นเขาจึงค่อยๆ ฝึกฝนตัวเองให้เดิน พูด และทำตัวเหมือนมนุษย์

เพื่อปกปิดผิวที่ดูมหึมาของเขา เขาใช้ CC monster cover cream ในขอบเขตที่เขาควรซื้อหุ้นในบริษัท หลังจากได้เห็นการฆาตกรรมนักสืบเอกชน Kim Moo-young มินโฮได้เพิ่มความลึกลับอีกอย่างในรายการของเขาและคาดเดาตัวตนของนักสืบเพื่อที่เขาจะได้ไขปริศนา ในอดีตของเขา Gong Sun-ji (Park Ju-hyun) ได้พบกับ Min-ho โดยบังเอิญและตั้งใจผิดพลาดทำให้เขา “ทำร้าย”

เพื่อชดใช้ค่าเสียหาย เธอยืนกรานที่จะเป็นผู้ช่วยพาร์ทไทม์โดยไม่รู้ว่าเจ้านายคนใหม่ของเธอคือซอมบี้ ทักษะของเธอในฐานะอดีตนักข่าวสายสืบสวนทำให้เธอเป็นทรัพยากรที่มีประโยชน์สำหรับมินโฮ เนื่องจากทั้งสองร่วมมือกันแก้ปัญหาไม่เพียงแค่อาชญากรรมที่รายล้อมเขาเสียชีวิต แต่ยังรวมถึงคดีอื่นๆ เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้

ฉันคาดหวังซีรีย์แนวดาร์ก/ลึกลับบางประเภท แต่กลับพบว่ามีคอมเมดี้…. และฉันต้องบอกว่าฉันไม่ชอบคอเมดี้เกาหลีจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะฉันพบว่าอารมณ์ขันบังคับและชัดเจน และมักจะแสดงเกินจริง ถ้าคุณชอบหนังตลกเกาหลีแล้วล่ะก็ มันควรจะเหมาะสำหรับคุณ สำหรับฉัน มันดูเบาเกินไป โอเวอร์แอคติ้ง และน่าเบื่อ

เหมือนเดิมนะครับ หากชอบการรีวิวของเรา อย่าลืมคอยติดตามการรีวิวใหม่ๆได้ที่นี้ที่เดียวนะครับ เว็บรีวิวหนัง