สปอยหนัง บอสฉันขยันเชือด

ผ่านมาหลายวันก็ห่างหายกันไปนานสำหรับการรีวิวหนัง และวันนี้ผมกลับมาอีกครั้ง พร้อม หนังที่ขนกองทัพนักแสดงมาอย่างล้นหลาม กับพล๊อต เรื่องที่โคตรจะน่าสนใจ พร้อมพระเอกนักดนตรีหนุ่มใหญ่รูปหล่อ ขวัญใจสาวๆทั่วเมืองไทย หนึ่งในหนังไทยกองทัพใหญ่ที่จะเรียงคิวฉายต่อเนื่องในเดือนเมษายนนี้ ก็คือ บอสฉัน ขยันเชือด หรือมีชื่อภาษาอังกฤษเก๋ๆ ว่า My Boss is a Serial Killer หากอยากรับชมตอนนี้มีช่องทางการดูหนังฟรี ที่ เว็บดูหนังฟรี

 

สปอยหนัง บอสฉันขยันเชือด

 

บอสฉัน ขยันเชือด มาพร้อมกับเรื่องราวชวนพิศวงในออฟฟิศ เมื่อแก๊งหนุ่มสาวอยู่ๆ ก็ไปแอบล่วงรู้ความลับของเจ้านายตัวเองว่า บอสใหญ่ของพวกเขาเคยมีอดีตเป็นฆาตกรโรคจิตต่อเนื่อง แล้วเรื่องนี้จะแอบอยู่เฉยได้อย่างไร เมื่อออฟฟิศลุกเป็นไฟ ปฏิบัติขุดคุ้ยอดีตและสืบหาความลับอันแสนระทึกที่มาพร้อมกับความสนุกและเสียงหัวเราะจึงได้เกิดขึ้น

ก่อนอื่นใดก็ต้องยอมรับเลยว่า My Boss is a Serial Killer นับว่าเป็นหนังไทยที่ค่อนข้างมีสไตล์ที่แปลกและแหวกแนวจากหนังไทยเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมา เราไม่ค่อยจะได้เห็นหนังแนวสืบสวนสอบสวนแกมตลกโปกฮา กลิ่นอายคล้ายๆ กับนิยายของ ‘อกาธา คริสตี’ อะไรทำนองนั้น แต่ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ออกมาในท้ายที่สุด หนังไทยเรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถตีโจทย์และถ่ายทอดเรื่องราวที่หนังควรจะเป็นได้ออกมาได้ถูกที่ถูกทางในแบบที่ควรจะเป็น

 

สปอยหนัง บอสฉันขยันเชือด-2

 

ทำให้หนังเรื่อง บอสฉัน ขยันเชือด จะเป็นหนังสืบสวนสอบสวนก็ไปไม่สุดทาง จะเป็นหนังตลกก็แทบไม่มีอะไรให้หัวเราะ หรือจะเป็นหนังฆาตกรรมเขย่าขวัญหักมุมก็ยังไม่ได้ ผลลัพธ์ที่ออกมาของหนังเรื่องนี้จึงกลายเป็นความสะเปะสะปะ หากเปรียบเป็นเมนูอาหารสักชามหนึ่ง ก็เป็นแกงที่ค่อนข้างจืด เผลอๆ เกือบจะไม่มีรสชาติอะไรเลยด้วยซ้ำ

โครงเรื่องของหนังค่อนข้างน่าสนใจ แต่กลับตีความและตีโจทย์ออกมากับบทหนังที่อ่อนปวกเปียกที่เป็นปัญหาหลักๆ ของหนังไทยส่วนใหญ่ บทของหนังเรื่องนี้ไม่สามารถสร้างมิติใดๆ ได้เลย ถึงแม้ว่าจะเห็นถึงความพยายามมากๆ แล้วก็ตาม แต่ที่ส่งออกมาถึงคนดูกลายเป็นความไม่ลงตัวอะไรเลยสักอย่าง กลายเป็นหนังที่แค่ ดูได้เรื่อย แอบน่าเบื่อไปสักหน่อย ถึงจะได้ทีมนักแสดงที่น่าติดตามมากเลยทีเดียว ดูหนังใหม่ ที่เว็บ เว็บดูหนังฟรี

ทีมนักแสดงชั้นนำในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ก้อง สหรัถ”, “ไอซ์ ปรีชญา”, “มุกดา นรินทร์รักษ์” หรือ “เผือก พงศธร” พวกเขาต่างทำหน้าที่การแสดงของตัวเองได้อย่างเต็มที่และค่อนข้างโดดเด่นดี โดยเฉพาะ น้องมุกดา ที่ออร่าเฉิดจรัสในหนังเรื่องนี้มาก เมื่อผนวกขึ้นจอคู่กับ ไอซ์ ยิ่งส่งเสริมให้คนดูจับตาจอได้เป็นอย่างดี แต่การแสดงของพวกเขากลับไม่ช่วยอะไรเลย เพราะความอ่อนของบทหนังที่เหมือนหลงทางอยู่เรื่อยๆ

 

สปอยหนัง บอสฉันขยันเชือด-3

 

ตลอดความยาว 2 ชั่วโมงของหนัง มีทั้งมุมที่น่าติดตามและมุมที่น่าหงุดหงิด หนังมีการปูเรื่องออกมาค่อนข้างน่าพอใจ แต่อยู่ๆ ก็ทิ้งเอาไว้กลางทาง และการจับนู้นโยงนี่ใส่เข้ามาแบบไม่สนใจความสมเหตุสมผลเลยสักนิด แน่นอนว่าหนังมีประเด็นหักมุมและฉากที่ไม่คาดคิด แต่แล้วยังไงแล้วเพราะสุดท้าย หนังเรื่องนี้ก็แทบจะไม่มีอะไรที่น่าจดจำเลยสักนิดเดียว

นับว่าเป็นความน่าเสียดายที่หน้าหนังและโครงเรื่องต่างๆ ของ บอสฉัน..ขยันเชือด ค่อนข้างมีความน่าสนใจ เพียงแต่เหมือนหนังเลือกวิธีการนำเสนอและเล่าเรื่องได้ไม่ค่อยดีอย่างที่ควรจะเป็น ทิศทางเล่าเรื่องการสืบสวนสอบสวนก็ไม่แข็งแรงเพียงพอที่ทำให้คนดูรู้สึกอินตาม ขณะที่ตัวละครหักมุมก็อยู่ดีๆ อยากจะหักมุมใส่เข้ามาแบบง่ายๆ โดยไม่มีเบาะแสและทิ้งปริศนาให้คนดูได้สงสัยเอาไว้ก่อนเลย

 

 

ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์นับเป็นค่ายหนังไทยที่กล้าผลิตหนังแนวทางใหม่ ๆ มาสร้างความคึกคักให้วงการหนังไทยเสมอตั้งแต่ปรากฎการณ์นางนาก หนังไทยร้อยล้านเรื่องแรก จนต่อมาได้ร่วมทำหนังกับ GMM ก็ยังได้ผลิตผลงานคุณภาพขวัญใจมหาชนออกมานับไม่ถ้วน หรือจะเป็นก่อนหน้านี้ที่ได้ร่วมงานกับ Mono Films ทำค่าย T-Moment ที่แม้จะมีหนังแค่ 3 เรื่องถ้วนได้แก่ โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง, App War แอปชนแอป และ The Pool นรก 6 เมตรก็ยังนับว่าได้สร้างความแปลกใหม่ให้วงการหนังไทยอีกครั้ง

และหลังเปิดตัวความร่วมมือล่าสุดกับทางเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์จนได้เปิดค่าย ไทเมเจอร์ และถือเป็นการร่วมงานกันอย่างเป๋็นทางการของคนตระกูลวรลักษณ์ ทั้งวิสูตร (ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์) และ วิศรุต (เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์) ก็ทำให้ความคาดหวังที่มีต่อบิ๊กวงการหนังทั้ง 2 อยู่ในระดับสูงสุดและผลงานประเดิมค่ายที่ขอออกฉายชิมลางก็ได้แก่ บอสฉัน..ขยันเชือด หนังสแลชเชอร์คอมเมดี้เรื่องนี้นี่เอง

 

 

สปอยหนัง บอสฉันขยันเชือด รีวิวหลังจากดู

ตัวหนังเริ่มเรื่องด้วยคลิปจากแชนแนล ‘กี้ษาท้าพิสูจน์’ ที่ช่วยแนะนำให้เรารู้จักกับ โบกี้ (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) และเมษา (มุกดา นรินทร์รักษ์) อดีตคู่หูยูทูบเบอร์สมัยมัธยมที่ปัจจุบ้นต้องใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือนในบริษัทผลิตเสื้อยืด แต่หลังจากวันดีคืนดีที่พวกเธอรวมถึง หลินฮุ่ย (ผักกาด-พอวิไล อภิรัชฎาพร) ได้พบเจอแฟลชไดร์ฟของนอท (นอท-สัณหณัฐ ทิราชีพ) หนุ่มไอทีที่ทำวิดีโอเปิดเผยว่าคุณต้น (สหรัถ สังคปรีชา) บอสประจำบริษัทเป็นฆาตกรต่อเนื่อง พวกเธอจึงต้องหาทางพิสูจน์ความจริงก่อนจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป

หนังได้ ภูวนิตย์ ผลดี จาก โอเวอร์ไซส์ทลายพุง และ ศรณ์พัฒน์ ปราการะนันท์ มาร่วมกันรังสรรค์เรื่องราวแนบสืบสวนสอบสวนคอมเมดี้ที่มีกลิ่นอายแบบหนังสแลชเชอร์ซึ่งนับเรื่องได้สำหรับวงการหนังไทย โดยหากพิจารณาจากไอเดียตั้งต้นที่มันตั้งใจหยอกล้อกันระหว่างงานออฟฟิศที่ฆ่าความฝันกับฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าเหยื่อสาวออฟฟิศแล้วโยนความไม่น่าไว้วางใจให้กับเจ้านายอย่างคุณต้นก็ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

อีกทั้งการได้มุกดานักแสดงสาวช่อง 7 ที่เคมีการแสดงเข้ากันกับไอซ์ ปรีชญาอย่างดีก็ทำให้ตัวหนังมีจุดที่ทำให้คนดูติดตามและลุ้นไปกับทั้งคู่ได้แม้หนังจะไม่ได้มีพระเอกเหมือนหนังไทยเรื่องอื่น ส่วนก้อง สหรัถก็ขายเสน่ห์บอสหนุ่มใหญ่สุดหล่อที่ดูอันตรายไม่น่าไว้วางใจ แค่นี้ตัวหนังก็สามารถเล่นสนุกกับคาแรกเตอร์ที่สร้างมาได้เป็นอย่างดีแล้ว เพียงแต่ตัวบทหนังก็ยังคงมีช่องโหว่ที่ยิ่งหนังเดินเรื่องไปก็ยิ่งถ่างออกจนชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

 

 

ข้อสังเกตประการแรกที่หนังไม่น่าพลาดเลยคือการปูความสัมพันธ์ของตัวละครโบกี้กับเมษานี่แหละที่บอกตามตรงว่าแม้ฉากเปิดเรื่องจะเปิดด้วยคลิปของทั้งคู่ แต่กว่าหนังจะมาปูความขัดแย้งของทั้งคู่ก็ปาไปองก์สองของหนังแล้ว ที่สำคัญความขัดแย้งของทั้งคู่ยังนำเสนอออกมาในลักษณะเพื่อนสาวที่ง้องแง้งกันมากกว่า และยังไม่พอหนังยังเพิ่มหลินฮุ่ยตัวละครเพื่อนสาวคนใหม่ของเมษาที่แทบไม่มีความจำเป็นกับเรื่องราวเท่าไหร่เข้าไปอีก

ประการต่อมาคือการตัวอย่างหนังที่ตัดออกมาโปรโมตคนดูอดคาดหวังไม่ได้เลยว่าตัวหนังควรออกมาระทึกและมีคนตายรายทางจนสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมา ปรากฎว่าทั้งเรื่องการฆาตกรรมเป็นเพียงอดีตที่เกิดขึ้นนานนับปีแค่ศพเดียว แล้วหนังก็เสียเวลาจับแพะชนแกะรายทางเอาทั้งความสงสัยแบบลอย ๆ ไปคุยกับดร.อัง (โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน) หรือพี่ปั่น (เผือก พงศธร จงวิลาส) จนเราอดสงสัยในระดับสติปัญญาของนักสืบ 3 สาวไม่ได้เลย ที่สำคัญคือจุดหักมุมของมันก็มาในแบบจับยัดมากกว่าจะมีการปูปมนี้มาแต่ต้นไปอย่างน่าเสียดาย

 

 

ประการสุดท้ายเลยคืองานกำกับของหนังยังไม่สามารถทำให้คนดูลุ้นระทึกตามตัวละครหรือสถานการณ์ในเรื่อง ทั้งที่หนังมีฉากที่เอื้อต่อการทำให้คนดูตามติดและอกสั่นขวัญแขวนได้เพียบทั้งฉากในห้องล้างรูปบ้านของบอสต้น ไปจนถึงไคลแมกซ์ของหนังที่แม้จะทำให้คนดูได้หัวเราะและสนุกสนานบ้าง แต่จังหวะของมันก็เอื่อยจนผิดฟอร์มหนังทริลเลอร์ ทั้งการกำกับการแสดงที่เหมือนผู้กำกับเองก็ไม่มั่นใจว่าจะให้ตัวละครรีแอ็กกับเหตุการณ์ตรงหน้ายังไงจนดูประดักประเดิด มุกที่ให้หลินฮุ่ยเอาตัวชนกับฆาตกรก็ดูเป็นมุกสังขารที่เกินความเข้าใจไปหน่อยจนมันดูกระอักกระอ่วนเกินจะหัวเราะออกมาดัง ๆ ครับ ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปดูให้เห็นกับตาที่ เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา

แต่กระนั้นอีกหนึ่งไอเดียที่ดีมาก ๆ แต่ดันมาตอนจบคือคำพูดของฆาตกรที่ว่าด้วยสังคมการทำงานแบบไทย ๆ โดยเฉพาะเรื่องเส้นสายที่เอาคนรู้จักหรือมีความสัมพันธ์เข้ามาทำงานด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งหากหนังปูเรื่องส่วนนี้ดี ๆ มันจะกลายเป็นหนังไทยที่มีบทหนังวิพากษ์สังคมการเมืองที่ทำงานที่เฉียบคมมาก ๆ อย่างไรก็ดีหากใครจะเข้าไปเสพหนังสนุก ๆ สักเรื่องที่มีดารามีเสน่ห์มาเพ่นพ่านกันบนจอ บอสฉัน..ขยันเชือดก็ถือว่ายังทำได้ดีอยู่นั่นแหละ

 

 

เอาเป็นว่าภาพรวมของ บอสฉัน..ขยันเชือด ถือว่ายังออกได้ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่ คงจะเป็นเพียงแค่หนังดูได้เพลินๆ แต่จะไม่ได้ทำให้คนดูฟินไปสุดทางได้สักทาง เหมือนกับหนังเก็บเอาไว้ดูขั้นเวลาว่างๆ ก็น่าจะพอได้ แต่อาจจะมีอาการกดเพลย์-กดหยุดอยู่หลายๆ ครั้ง เพราะหนังดำเนินเรื่องราวไปเรื่อยๆ แทบจะไม่มีจุดพีคใดๆ ให้ดึงดูดใจ แม้กระทั่งไคลแมกซ์สุดท้ายก็ยังไม่ดีพอ

ส่วนที่ดีที่สุดของหนังก็คงต้องขอบคุณ ทีมนักแสดงมืออาชีพ ที่พวกเขารับหน้าที่ของตัวเองเอาไว้ได้เป็นอย่างดี และพยายามช่วยพยุงหนังทั้งเรื่องเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดความไม่น่าจดจำของหนังทั้งเรื่องนี้ พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยเอาไว้ เพราะหนังเรื่อง บอสฉัน ขยันเชือด น่าจะกลายเป็นหนังไทยที่จะไม่มีใครนึกถึงในระยะยาว และอาจจะเลือนหายเข้าไปในสารบบหนังไทยอย่างน่าเสียดาย

ความคิดเห็นส่วนตัว สำหรับเรื่อง My Boss is a Serial Killer บอสฉันขยันเชือด แอบเสียดายนักแสดงในเรื่องมาก เพราะเป็นนักแสดงชั้นนำที่โด่งดังที่ถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ก้อง สหรัถ , ไอซ์ ปรีชญา , มุกดา นรินทร์รักษ์ , เผือก พงศธร และนักแสดงสมทบอย่าง ผักกาด พอวิไล , โอ๊ต ปราโมทย์และ นอท สัณหณัฐ โดยในเรื่องนี้คนที่โดดเด่นน่าจับตามองก็คือ มุกดา นรินทร์รักษ์ ที่ก้าวขามาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้และเป็นMain Cast เรื่องแรกเลย นับว่าทุกบทบาทแสดงออกมาได้ดีและเต็มที่มากๆ

 

 

ข้อมูลของหนัง

ชื่อเรื่อง : My Boss is a Serial Killer (บอสฉันขยันเชือด)

ประเภท : ตลก / ระทึกขวัญ / คอมเมดี้

ผู้กำกับ : ภูวนิตย์ ผลดี

ความยาว :  1 ชั่วโมง 52 นาที

ช่องทางรับชม : Netflix / เว็บดูหนัง

หากชื่อชอบการรีวิวหนัง สปอยหนัง หรืออยากให้ผมนำเรื่องไหนมาสปอยมารีวิวอีก ติดตามได้ที่ เว็บรีวิวหนัง