รีวิว Sonic The Hedgehog
เกริ่นเรื่องมาด้วย เรื่องราวสุดแสนจะแฟนตาซี โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งที่เรียกว่าเป็นพล๊อตเกี่ยวกับต่างโลกย้อนกลับ หรือ การที่สิ่งมีชีวิตจากต่างโลกเข้ามาอยู่ในโลกจริงของเรานั่นเอง (จะไม่ใช่แนวต่างโลกที่วาปมนุษย์เราเข้าไปอยู่ในโลกลแฟนตาซีอีกแล้ว) กล่าวถึง สิ่งมีชีวิตประเภทเม่น เขาหลุดจากต่างโลกมาอยู่ที่โลกในกรีนฮิลล์ เมืองเล็ก ๆ ในรัฐมอนทาน่ามากว่าสิบปี แต่แล้วด้วยเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้ชีวิตของเขาต้องมาพบกับ ทอม วาเคาว์สกี้ นายอำเภอหนุ่มรูปหล่อที่กำลังจะมีอนาคตการงานที่แสนสดใส แต่เมื่อดร.โรบอทนิกส์ นักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐ ต้องการจะตามล่าตัวโซนิค ทั้งสองจึงต้องผนึกกำลังกันหาทางหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายที่จะครอบครองโลกของดร.โรบอทนิกส์ให้ได้ก่อนที่จะสายไป เรื่องราวที่น่าสนใจขนาดนี้ สามารถติดตามดูได้ที่ เว็บดูหนังฟรี
โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 2020 โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก หรือชื่อแปลเป็นไทย คือ เจ้าเม่นสายฟ้า วิ่งสะท้านโลก เป็น ภาพยนตร์ไลฟ์แอ็คชั่นแฟนตาซี ตลกผจญภัย สร้างจากแฟรนไชส์เกมบล็อกบัสเตอร์อย่าง โซนิคเดอะเฮดจ์ฮ็อก โดย เซก้า จัดจำหน่ายโดย พาราเมาต์พิกเจอส์ กำกับโดย เจฟฟ์ โฟว์เลอร์ ผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง
และเขียนบทโดยนักเขียนรุ่นใหม่อย่าง แพทริก เคซี, จอร์ช มิลเลอร์ และ โอเรน ยูเซียล จากบทของ แวน โรบิชอกซ์ และ อีวาน ซัสเซอร์ และมีเบน ชวาร์ตซ์ ให้เสียงของ โซนิค เจ้าเม่นสายฟ้า และ จิม แคร์รี่ รับบทเป็นดร.โรบอทนิกส์ คู่ปรับของโซนิค ร่วมด้วย เจมส์ มาร์สเดน จาก Enchanted ทิก้า ซัมพ์เตอร์ จาก Gossip girl อดัม พาลลี่ และ นีล แมคโดโนห์
เมื่อนึกถึงเกมมาเป็นหนัง ทุกคนคงคิดว่า แป้กแน่ ๆ เพราะหนังแต่ละเรื่องที่ออกมา ไม่ออกมาแย่สุด ก็คงพอใช้ได้ แต่คงไม่มีใครคิดแน่ ๆ ว่าหนังจากเกมจะปัง เพราะหนังเรื่องนี้สามารถทำได้แล้ว ด้วยคะแนนในเว็บมะเขือสด Rotten Tomatoes เป็นอันดับสามรองจากยอดนักสืบ พิคาชูและ แองกรี้เบิร์ด 2 ด้วยคะแนน 94% พร้อมกระแสชื่นชมอย่างล้นหลามจากทั่วโลก กวาดรายได้เป็นอันดับหนึ่งของโลกไปได้สวยงามในขณะนี้อย่างถล่มทลาย
และในวันนี้เจ้าเม่นสายฟ้าก็ได้วิ่งมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องซีจีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาผมจะไม่ขอพูดถึงละนะ เพราะว่าเราคงเบื่อแล้วล่ะ เอาเป็นว่าซีจีที่เป็นอยู่คือเวอร์ชั่นใหม่ละกัน เพราะต้าวเม่นที่ออกมานั้นดูสมจริงจนน่าสะพรึงกันเลยล่ะครับ พูดมาถึงขนาดนี้ต้องเข้าไปดูแล้วไหมครับ ไป ดูหนัง เรื่องนี้ได้ที่ เว็บดูหนัง
รีวิว Sonic The Hedgehog หนังที่มีการสร้างที่ดุดันเข้มข้น
ถ้าคุณคาดหวังหนังที่มีเนื้อหายิ่งใหญ่ ซับซ้อนคุณอาจจะผิดหวัง เพราะหนังมีการเล่าเรื่องธรรมดามาก อาจจะมีเทคนิคการเล่าเรื่องในช่วงแรก ๆ ที่แปลกหน่อย แต่หนังกลับเล่าเรื่องได้อย่างลื่นไหล เพราะแค่ 5 นาทีแรกหนังก็เข้าสู่เรื่องทันที โดยที่ไม่ต้องปูอะไรมาก แต่ก็เข้าใจความเป็นตัวละครแต่ละตัวได้ดี ก่อนที่จะปาสถานการณ์สุดปั่นป่วนและวุ่นวายใส่อย่างรวดเร็วและเคลียร์ปมต่าง ๆ อย่างง่าย ๆ ซึ่งนี่อาจจะทำให้คนที่คาดหวังพล็อตแน่น ๆ อาจจะไม่ชอบใจเท่าไหร่ แต่เท่าที่ชมมาตลอดชั่วโมงครึ่งมันกลับเพียงพอแล้วที่จะเล่าทุกอย่างให้จบ
เพราะถ้ามากกว่านั้น หนังคงไม่ออกมากลมกล่อมแบบนี้ หนังมีฉากแอ็คชั่นสุดตื่นตา ฉากฮาลั่นโรง ฉากซึ้งน้ำตาไหล และการแสดงออกของตัวละครที่น่าเอาใจตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งเป็นเพราะหนังรู้ตัวเองดีว่าต้องการจะเล่าอะไร มันจึงออกมาได้แบบเป็นธรรมชาติ และไม่มีอะไรมาทำให้อารมณ์สะดุด เรียกได้ว่าทำได้ดีเกินคาดเลยทีเดียว
ต้องขอขอบคุณทางทีมกราฟิควิชัวร์อย่าง MPC ที่ทุ่มเทกับงานกว่าแปดเดือนกว่าจะออกมาได้ แถมต้องประสบกับปัญหาเศรษฐกิจในแคนาดาจนต้องปิดตัวสาขาแวนคูเวอร์ไป พวกคุณได้ทำให้โซนิคที่เรารักกลับคืนมา โซนิคในเรื่องนี้ให้ลืมโซนิคแบบเท่ ๆ ในเกมที่ผ่านมา เพราะมันมีพัฒนาการ มีมิติที่น่าสนใจ
ไม่ใช่แค่เป็นฮีโร่เลยแบบที่เห็นในตัวอย่าง เราจะได้เห็นโซนิคในหลายมุมทั้งน่ารัก กวนทีน น่าสงสาร และเท่เป็นระดับ เจฟฟ์ โฟว์เลอร์ ผู้กำกับนั้นสามารถสะกัดองค์ประกอบจากเกมให้ออกมาเป็นภาพยนตร์ที่ดูสนุกได้ทุกเพศทุกวัย แถมยังใส่กิมมิคแบบที่เกมทำ เช่น ฉากวิ่งที่มีสไตล์ ฉากการต่อสู้ที่อิงจากเกม ทำให้เรานึกถึงความอบอุ่นสมัยเด็กที่ย้อนวันวานกลับมาเลยครับ
ในขณะที่ฝั่งทีมนักแสดง คนอาจจะชมจิม แคร์รี่เยอะ ใช่ เพราะเขาคือคนที่ขโมยซีนหนังเรื่องนี้อย่างแท้จริง ออกมาทีไรอยากจะต่อยหน้าสักที แต่ไม่ใช่เดอะแบกของเรื่องแน่นอน เจมส์ มาร์สเดน ยังโชว์เสน่ห์ความเป็นผู้ชายอบอุ่นที่รักและหวังดีกับคนอื่นอย่างน่าสนใจ แถมเคมีเข้ากับเจ้าโซนิคอีกตะหาก สาว ๆ น่าจะกริ๊ดกับคน ๆ นี้
ขนาดผมดู ผมยังแบบ คิดว่าอะไรกันครับนี้ ทำไมพี่ชาบยคนนี้ถึงหล่อขนาดนี้ หล่อเท่ โคตรอันตราย ในขณะที่ทิก้า ซัมพ์เตอร์ สาวผิวสีที่ในตัวอย่างแทบไม่บอกว่ามีบทบาทอะไร แต่ในหนังกลับเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ แถมคอยสนับสนุนตัวละครอื่น ๆ ไม่ได้มีอะไรน่ารำคาญเลย คนเขียนบททั้งสามอย่าง แพทริก เคซี จอร์ช มิลเลอร์ โอเรน ยูเซียล ก็สามารถตีความโซนิคในจอเงินให้ออกมาดีได้ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกผมเป็นห่วงส่วนนี้มาก ๆ แต่พวกเขากลับทำให้พอใจได้เกินคาดจริงๆ
สิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมคือประเด็นของเรื่องที่หนังใส่เข้ามาอย่างพอดี ทั้งเรื่องของประเด็นของความโดดเดี่ยวที่ตัวละครต้องเผชิญ ซึ่งไม่คิดมาก่อนว่าจะได้เห็นฉากดัวกล่าว การมองหาเป้าหมายในชีวิต และที่ ๆ ตัวเองสามารถอยู่ได้โดยที่ไม่มีใครต้องเดือดร้อน เรื่องของมิตรภาพที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลา แต่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่มีร่วมกัน การเคารพในกันและกัน ไม่เบียดเบียนเหยียดหยามคนอื่น
และในขณะเดียวกันก็ยังสอนเรื่องการใช้ความสามารถให้เป็นประโยชน์ วิเคราะห์เหตุการณ์ รู้จักการแก้ปัญหา และยืนหยัดด้วยตัวเองอย่างงดงาม จนไปถึงไม่มีที่ไหนที่จะดีไปกว่า ครอบครัว (ในเคสนี้ขอพูดถึงครอบครัวโดยส่วนมากนะครับ) ซึ่งดู ๆ แล้วก็นึกถึงหนังรถซิ่ง(หลังๆอาจจะเป็นแนวไล่ล่าอาชญากรรม) อย้่าง F9 ในช่วงหลังๆ เลยนะ
นอกจากการผจญภัยสุดตื่นเต้นแล้ว หนังยังอัดแน่นด้วยวัตถุดิบของยุคเก่า ประมาณ ตั้งแต่ 70 ที่หยิบยกมาใส่อย่างมันส์มือ แต่ไม่ล้นจนเกินไป มีจิกกัดคู่แข่งตัวเองเบา ๆ ให้ขำเล่น ลึก ๆ ก็เพื่อนกันแหละสองค่ายนี้) พูดถึงภาพยนตร์ นักแสดง หรือแม้แต่เพลงประกอบ (เอาเป็นว่าผมไม่อยากสปอยในส่วนนี้แม้มันจะไม่ได้เป็นส่วนสำคัญ แต่อยากให้ไปดูกันเอง มากกว่าที่ เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา
รวมไปจนถึงการไทน์อินโฆษณาแบบเนียน ๆ ที่ใครหลายคนได้ดูคงสงสัยว่าจริงเหรอ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยัดเยียดกับหนังมากเท่าไหร่ ในขณะที่ฝั่งของความเป็นเกม หนังก็ทำได้ดีมากในการหยอดอีสเตอร์เอ้ก ใครเป็นแฟนโซนิคจะต้องเห็นอะไรบางอย่างที่ว้าวมาก ๆ เพราะมันอาจจะเป็นฉากที่ผ่านตาเพียงแว้บเดียว แต่ถ้าคุณผ่านการเดินทางของโซนิคมากว่าสิบปี
หนังเรื่องนี้คือจดหมายรักส่งถึงเราเหล่าแฟนโซนิคจริง ๆ แต่คนที่ไม่รู้จักก็ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับอีสเตอร์เอ้กเหล่านี้ได้ แต่อย่างที่บอกคนที่เป็นแฟนโซนิค คงจะแอบฟินกับภาคนี้กันอย่างแน่นอน
สิ่งไม่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยของหนังเรื่องนี้
เพลงประกอบของเรื่องที่ได้ Junkie XL มือแต่งเพลงสุดเจ๋งที่เคยฝากผลงานใน Deadpool และ Batman ปะทะ Superman เมื่อต้องมาอยู่ในหนังที่มีโทนสดใสก็ช่วยขับอารมณ์ของหนังได้ถูกจังหวะทั้งตื่นเต้น สงบ อบอุ่น โศกเศร้า น่าสะพรึง แต่ที่น่าประทับใจที่สุดก็คือคือ เพลงประกอบที่แซมเข้ามาประหนึ่งการ์เดี้ยนออฟกาแล็กซี่ตลอดทั้งเรื่อง
เชื่อได้เลยว่าเพลงไหนออกฉากไหนผู้ชมจะต้องว้าว ไม่ก็ตะลึงมากแน่ ๆ เพราะมันมาถูกที่ถูกเวลาจริง ๆ ดูจบแล้วคงต้องหามาเป็นเพลย์ลิสต์ของตัวเองแน่นอน โดยเฉพาะเพลง Catch Me, I’m falling คือเพลงโปรดของผมเลย ที่เหลือผมอุบไว้นะ ยังมีเพลงเด็ด ๆ มากกว่านี้อีก
ถือเป็นการแจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์อย่างงดงามของเจ้าเม่นสายฟ้า โซนิค ที่ต้องฝ่าด่านตั้งแต่การทำซีจีใหม่ หลังโมเดลออกมาไม่ได้เสียงตอบรับที่ดี ต้องแบกรับความเสี่ยงจากการเป็นหนังจากเกม แต่กลับกลายเป็นว่าความใส่ใจของทั้งผู้กำกับและทีมงาน นักแสดงที่เกี่ยวข้องได้แสดงให้เห็นแล้วว่า หนังจากเกม สามารถดีได้ หากรู้จักวิธีการเล่าเรื่อง และประยุกต์ใช้กับทรัพยากรของเกมให้ดีมากพอ
แค่นี้ก็จะได้หนังจากเกมดี ๆ หนึ่งเรื่องแล้ว ผมในฐานะโซนิค ผมบอกเลยว่าดีใจจนน้ำตาไหล ที่มันออกมาดีเกินคาดขนาดนี้ ลบคำสบประมาทจากคนนับล้าน แต่ตอนนี้กวาดรายได้ไปกว่า 200 ล้านเหรียญทั่วโลกแล้ว
ต้องมาลุ้นกันต่อไปว่าจะวิ่งไปได้ถึงกี่ล้าน ส่วนตัวผมคงมีต่อรอบสอง รอบสาม และไอจูนแน่ ๆ เพราะนี่คือหนังโปรดของผมในต้นปี 2020 เลย ต้องรีบวิ่งไปโรงแล้ว อย่าลืมมี Mid Credit รออยู่ และมันต้องมีภาคต่อให้เราได้ดูต่อแน่ๆ
หากชอบบทความนี้แล้วอยากให้ผม รีวิวหนัง สปอยหนัง เรื่องอื่นๆ หรือเรื่องไหนๆ ทุกเรื่อง ทุกแนว ทั่วโลก ติดตามได้ที่ เว็บรีวิวหนัง