รีวิว Kingdom
เมื่อความอยุติธรรมทำให้คนกลายเป็นปีศาจ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือหนังที่ได้รับความนิยมอย่าล้นหลามในช่วงนี้จะมีหนึ่งแนวที่ทุกคนน่าจะเคยต้องดูไม่ว่าจะเป็นคอหนังรัก หนังสยองขวัญ หนังแอ๊คชั่น หรือแม้กระทั่งแฟนๆชาวอนิเมะเองก็ตาม นั่นก็คงจะหนีไม่พ้นหนังที่มีพล๊อตเรื่องเกี่ยวกับซอมบี้นั่นเอง และทางเกาหลี ก็ได้ผลิต ซีรี่ส์ซอมบี้แนวใหม่ที่น่าสนใจ อย่างการเล่นกับยุคสมัยเก่า โชชอน นั่นๆๆๆ คุ้นกันแล้วไหมครับว่าผมกำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร เรื่องนั้นก็คือ ซีรีส์ Kingdom เรื่องนี้เป็นซีรีส์เกาหลีของ Originals Netflix ซึ่งซีซั่นแรกได้เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2019 และจบลงด้วยความตื่นเต้นที่ยิ่งใหญ่อลังการ อยากรู้เรื่องราวขึ้นมาหรือยังครับ ติดตามชมได้ที่ เว็บดูหนัง
แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าซีรีส์เรื่องนี้สร้างมาจากการ์ตูนคอมมิคเรื่อง The Kingdom of the Gods ที่เขียนโดยคิมอึนฮีและวาดภาพโดยยางคยองอิล โดย Kingdom หรือชื่อภาษไทย ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด เป็นเรื่องราวที่ย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์สมัยโชซอนของเกาหลีที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อซอมบี้ และมีผู้คนจำนวนหนึ่งที่พยายามหยุดยั้งไม่ให้เกิด โรคระบาดซอมบี้แพร่ไปทั่วโชซอน ซึ่งด้วยคุณภาพของตัวซีรีส์ และความนิยม จึงทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีซีซั่นที่ 2 ซึ่งลงจอเมื่อเดือนมีนาคม 2020 และคาดว่าจะมีซีซั่นที่ 3 ในปี 2021 นี้ และภาคแยกอย่าง Kingdom Ashin of the North ที่มีตัวหลักเป็นนักแสดงสาวชอนจีฮยอนซึ่งเคยปรากฏตัวมาแล้วในซีซั่น 2 ดูได้ทุกภาคที่ เว็บดูหนังฟรี
เรื่องย่อ เหตุการณ์ ในยุคสมัยราชวงศ์โชซอนของเกาหลี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นช่วงยุคที่เต็มไปด้วยความรุ่งเรือง และ ปกครองเกาหลีมาอย่างยาวนาน แต่แน่นอนว่าความรุ่งเรื่องอย่างยาวนานไม่มีอยู่จริง เพราะมีเสนาบดีหิวในศักดินาและลาภยศ จึงได้แพร่เชื้อร้ายปริศนาที่เกิดจากสมุนไพรชนิดหนึ่ง ตามความเชื่อว่าหากได้ใช้รักษาด้วยพลังพิเศษนี้ ก็จะทำให้คนตายกลับคืนชีพ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่เหล่าศพลุกขึ้นฆ่าคนเป็น พวกเขากลายเป็นผีดิบร้ายที่พร้อมจะฉีกร่างและลิ้มรสเนื้อมนุษย์อย่างเอร็ดอร่อยและทำให้คนที่โดนกัดหรือโดนกินจะต้องกลายเป็นผีซอมบี้กันไปตาม ๆ กัน และความหวังเดียวที่จะยุติเหตุการณ์นี้ได้คงมีแต่ องค์รัชทายาท อีชาง ผู้ที่มีสิทธิ์ในบัลลังก์แต่ต้องลี้ภัยจากน้ำมือของอัครมหาเสนาบดีผู้ชั่วร้าย ที่หวังจะให้ลูกสาวในฐานะพระมเหสีที่กำลังรอวันให้กำเนิดว่าที่กษัตริย์ เพื่อหวังจะรักษาอำนาจ ซึ่งเขาจะต้องร่วมมือกับชาวบ้าน ที่จะต้องหยุดเรื่องราวอันเลวร้ายนี้
ตอนนี้เรื่อง Kingdom ก็ได้ดำเนินไปถึงซีซั่นที่ 2 แล้ว หากไม่ได้ดูถือว่าพลาดมาก ๆ
เรื่องราวของซีซั่นแรก
ในตอนต้นของซีรีส์ซีซั่นแรกเริ่มต้นด้วยพระราชาสิ้นพระชนม์ด้วยไข้ทรพิษในขณะที่พระราชินีกำลังตั้งครรภ์ พ่อของราชินีเป็นเสนาบดีที่มีชื่อว่าโจฮักจู (รยูซึงรยง) ตัดสินใจที่จะปกปิดการตายของกษัตริย์จนกว่าพระราชินีโจ จะให้กำเนิดลูกชาย ลูกชายคนนี้จะถูกต้องตามกฎมากกว่ามกุฎราชกุมารลีชาง ที่มีมารดาเป็นนางบำเรอ
เป็นผลให้กษัตริย์ถูกฉีดวัคซีนด้วยพืชคืนชีพและต่อมาต้องกลายเป็นสัตว์ประหลาดในเวลากลางคืนที่ต้องถูกล่ามโซ่เอาไว้ เจ้าชายลีชางพยายามตามหาลีซึงฮุย หมอที่รักษากษัตริย์เป็นครั้งสุดท้าย เขาตกใจกับสิ่งที่เขาพบในกระบวนการตรวจสอบความเจ็บป่วยของพระราชา เขาเลยมุ่งหน้าไปยังจังหวัดคยองซังทางใต้พร้อมกับทหารคนสนิทอย่าง มูยอง เพื่อค้นหาคำตอบที่ต้องการเพิ่มเติม ส่วนผู้ช่วยแพทย์ที่พวกเขาตามหาอยู่นั้นมีซอบี ดูแลผู้ป่วยแต่ผู้ป่วยทั้งหมดก็กำลังอดอาหาร ยองชิน (คิมซองกยู) หนึ่งในผู้ป่วยเลยได้ทำสตูว์สำหรับผู้ป่วยโดยที่เขาบอกว่าเป็นเนื้อกวางแต่แท้จริงแล้วเนื้อนั้นมาจากซากศพของคนที่ถูกพระราชากัดและผู้ป่วยทั้งหมดก็กลายเป็นซอมบี้อย่างรวดเร็ว
เรื่องราวของซีซั่นสอง
เรื่องราวในซีซั่น 2 เริ่มขึ้นในฮันยาง พระราชินีได้รวบรวมสตรีมีครรภ์จำนวนมากที่แนซอนแจซึ่งเป็นที่ประทับส่วนตัวของเธอ ภรรยาของมูยอง ก็อยู่ที่นั่นเช่นกันและถูกจับไปเป็นตัวประกันเพื่อบังคับให้มูยองสอดแนมความเป็นไปขององค์ชาย จุดประสงค์ของราชินีคืออยากเอาลูกชายของใครก็ได้มาแต่งตั้งเป็นรัชทายาท หากเป็นเด็กผู้หญิงจะถูกกำจัดกลายเป็นศพเป็นผลให้ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษเกิดความสงสัยและต้องการค้นหาความจริง ส่วนในเขตซังจูพบว่าซอมบี้เหล่านั้นไม่ได้หมดเรี่ยวแรงเพราะแสงแดดแต่เป็นเพราะอุณหภูมิต่างหาก เนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นลง ซอมบี้เลยสามารถมีชีวิตได้ทั้งกลางวันและกลางคืนและซอมบี้ไม่ได้กลัวแสงแดดอีกต่อไป
องค์ชายจึงตัดสินใจที่จะบุกเข้าวังเพื่อใช้เป็นที่คุ้มกัน ต่อมาไม่นานซอบีค้นพบวิธีรักษาซอมบี้ปรากฏว่าหากคนที่เป็นซอมบี้แช่น้ำจะมีแบคทีเรียลักษณะคล้ายหนอนออกมา ซึ่งแบคทีเรียนั้นทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ เมื่อรู้ความจริงแล้วแต่ในขณะนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะราชินีสั่งให้ปล่อยซอมบี้ออกจากห้องทดลองและความโกลาหลในวังก็เกิดขึ้น องค์ชายไม่สามารถควบคุมความเสียหายได้อีกต่อไป
องค์ชายและพรรคพวกได้หนีไปที่สวนด้านหลังและทำลายน้ำแข็งในบ่อ ซอมบี้หลายตัวเลยตกลงไปในน้ำและคนที่ถูกกัดแต่ยังไม่กลายร่างก็สามารถรอดจากการถูกซอมบี้กัด นั่นเป็นเพราะเชื้อโรคที่อยู่ในตัวตายไปกับน้ำ 7 ปีต่อมาซอบีและลีชางอดีตมกุฎราชกุมารได้ไปสอบสวนจังหวัดทางภาคเหนือของเกาหลีและได้เจอกับหญิงลึกลับนามว่าอาชิน (ชอนจีฮยอน) เธอได้ปรากฏตัวพร้อมกระดิ่งและเขาได้พบว่าในเขตนี้ยังมีซอมบี้อยู่ อีกทั้งยังทิ้งปมที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับอาชินและลูกชายของมูยองด้วย
รีวิว Kingdom ข้อมูลของหนัง
ชื่อเรื่อง : Kingdom
แนว : ย้อนยุค / ลึกลับ / ทริลเลอร์
ผู้กำกับ : คิมซองฮุน
คนเขียนบท : คิมอึนฮี
นำแสดง :จูจีฮุน , แบดูนา, รยูซึงรยง
ช่องทางการรับชม : Netflix / เว็บดูหนังฟรี
จำนวนตอน : 6
ช่วงเวลาออนแอร์ : 25 มกราคม 2562
ซีรี่ส์ เรื่อง kingdom ในขณะนี้ นับได้ว่าเป็น อีกเรื่องที่ถูกพูดถึงและบอกต่อกันอย่างล้นหลามจนเกิดเป็นกระแสในช่วงข้ามคืนทำเอาผมต้องรีบ สตรีมดูไปด้วยเพื่อที่จะได้คุยกับเค้ารู้เรื่องทีแรกก็คิดในใจว่า เฮ้อออ มันจะดีอะไรขนาดนั้นกับซีรี่ส์เกาหลีเรื่องนี้ มองเผินๆทีแรกก็ อ่อ ซอมบี้ย้อนยุค ก็น่าสนใจอยู่พอตัว ซึ่งพอมาดูด้วยตัวเองแล้ว ตามจริงก็ว่าจะเสียเวลาดูสักวันละตอนก็พอ เพราะ ซีซั่นนี้มีแค่ 6 ตอนเอง น่าจะเก็บวันละตอนก่อนนอนเดี๋ยวก็ครบ แต่ก็ตามที่คิดครับ ซัดไปทีเดียว6ช 6 ตอนรวด ครบทั้งซีซั่น ไม่หน้ำซ้ำยังจะต่อ 2 และ ตอน พิเศษเข้าไปอีก เอาว่าจัดรวดเดียวให้่เต็มเหนี่ยวเลย
ส่วนในเรื่องของตอนพิเศษนั้น ผมเอามาแนะนำให้พอหอมปากหอมคอนะครับ
เรื่องราวของ ภาค 3 หรือตอนพิเศษนั้น Kingdom: Ashin of the North พาคนดูย้อนเวลากลับไปหลายปี เล่าเรื่องก่อนเหตุการณ์ในซีรีส์จะเริ่มต้นขึ้น โดยเปิดเรื่องราวมาที่หมู่บ้านของชนกลุ่มน้อยหนี่ว์เจิน บริเวณตะเข็บชายแดนของประเทศเกาหลี โดยพ่อของเธอเป็นถึงผู้นำเผ่าที่จงรักภักดีต่อราชวงศ์โชซอน
เพียงเพราะเขาได้ตั้งความหวังว่า สักวันหนึ่งจะสามารถได้รับการนับถือตาในฐานะพลเมืองอย่างถูกต้องและได้เข้าไปรับราชการ แต่หลังจากความขัดแย้งระหว่างชนเผ่ากำลังก่อตัวขึ้น เมื่อมีการพบศพปริศนาจำนวนหนึ่งนอนตายอยู่กลางป่า นำไปสู่การปกปิดความจริงของทหารจากราชวงศ์โชซอนที่เลือกจะซ่อน ปัญหาร้ายแรง ด้วยการซุกทุกอย่างไว้ใต้พรมและทำให้เรื่องทุกอย่างเงียบกริบ ราวกับไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกับคนกลุ่มหนึ่งมาก่อน คุ้นๆไหมครับ เรื่องราวแบบนี้พบได้ทั่วไปในโลกครับ
อย่างไรก็ตามเราอาจจะต้องสลัดความคาดหวังแบบเดียวกับในซีรีส์ ที่เหล่าซอมบี้กระหายเลือดจะโผล่ขึ้นมาสร้างความระทึกขวัญ เพราะถ้าเรามองตามเจตนาแล้ว Ashin of the North ตั้งใจจะสร้างขึ้นมาเพื่อบอกเล่า ปมขัดแย้งอันใหญ่หลวงในซีรีส์ ที่จะนำไปสู่มหากาพย์การล้างแค้นครั้งใหญ่ในซีซั่นที่ 3 โดยบัดนี้ตัวละครอย่างอาชิน เธอปรากฏตัวขึ้นไม่ใช่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม แต่เธอมาเพื่อทำให้ราชวงศ์โชซอนพังพินาศ ฉิบหาย ย่อยยับในแบบเดียวกับที่ชนเผ่าของเธอถูกกระทำฆ่าล้างบางเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานเมื่อครั้งในอดีต
จริงอยู่ที่หนังอาจจะเผยว่าที่มาที่ไปของเชื้อซอมบี้ระบาดนั้น แท้ที่จริงแล้วมีต้นตอมาจากดอกไม้สีม่วงกลางป่าลึก ที่มีการเขียนตำนานเอาไว้ที่ฝาผนังถ้ำว่าผู้ใดก็ตามที่ครอบครองพืชชนิดนี้จะสามารถชุบชีวิตคนตายให้กลับมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีราคาที่ต้องแลกด้วยเช่นกัน ดังนั้นในช่วงแรกๆของเรื่องเราจึงได้เห็นสัตว์อย่างกวางและเสือกลายพันธุ์ จนกลายเป็นภัยคุกคามที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่ “นิยายทางการเมือง” ที่เหล่าผู้นำทหารโชซอนหยิบเอาสิ่งนี้ไปเป็นเหตุผลอันนำมาซึ่งการกลบข่าวบางอย่างนั่นเอง
ชะตากรรมที่ตัวละครอย่างอาชินที่ต้องเผชิญ แบกรับในตลอดชีวิตในฐานะลูกสาวของผู้นำเผ่า ตั้งแต่เด็กจนโต จะเห็นได้ว่าเธอแทบไม่เคยปรากฏรอยยิ้มเปื้อนหน้า เธอต้องมองดูเพื่อนร่วมเผ่าตายอย่างน่าเวทนา มิหนำซ้ำเมื่อความจริงทุกอย่างปรากฏ แทนที่เธอจะได้ค้นพบทางออกของชีวิต เปล่าเลยมันกลับยิ่งเติมเชื้อไฟแห่งความแค้นให้หนักกว่าเดิม เมื่อบัดนี้เธอรู้แล้วว่า ราชวงศ์โชซอนไม่เคยมองเผ่าพวกเธอเป็นมนุษย์ ดังนั้นก็คงถึงเวลาแล้วที่เธอจะสู้กลับด้วยการปลุก “สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์” กลับคืนสนองให้สาสมเช่นกัน
สิ่งที่ซีรี่ส์เรื่องนี้ได้ใจคนดูและโด่งดังไปทั่วโลก
ด้านบทภาพยนตร์ เข้มข้น แยบยล บาดลึก จนต้องติดตาม
อันนี้ต้องชื่นชมผู้เขียนบทเรื่องนี้เต็มๆเลยนะครับ มีความแยบยลในการจัดวางเส้นเรื่อง ตัวละคร และเรื่องราวในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะนี่ไม่ใช่หนังย้อนยุคที่วิ่งหนีซอมบี้กันอย่างเดียวในแบบหลายๆเรื่องที่เราๆท่านๆเคยรับชม เคยดูกันมา
แต่มันมีเนื้อหาเรื่องความคิด การเป็นอยู่ และ การเมือง ที่เข้มข้นมากๆ ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้เสน่ห์ของเรื่องนี้พุ่งออกมาชนิดที่แบบทำเอาเราต้องติดขอบจอ อยากดูอยากติดตามในด้านของเนื้อเรื่องกันอย่างหยุดไม่อยู่ ถ้าให้พูดง่ายๆก็คือ โคตรดีย์ โคตรน่าดู ว่อกแว่กไม่ได้เลย ห้ามละสายตาจากจอเด็ดขาด
อีกเรื่องคือแคสนักแสดงมารับส่งบทบาทกันในความพอดี ซึ่งลูกพี่นักแสดงในเรื่องนี้แต่ละคน ก็ล้วนเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงและชั้นแนวหน้าของเกาหลีกันทั้งนั้น โดยเฉพาะตัว เอกที่เดินเรื่องก็เป็นดาราระดับซุปเปอร์สตาร์ที่มีผลงานทั้งหนังและซีรี่ส์ดังมากๆ ยิ่งโดยเฉพาะในเรื่องนี้ ก็สามารถแสดงออกมาได้ในระดับที่พอดีทำให้ไม่รู้สึกขัดใจในการดู ก็คงต้องรอดู ซีซั่น ต่อๆไป ผมคิดว่าน่าจะได้เห็นฝีมือการแสดงได้มากกว่านี้มากยิ่งขึ้น
ในซีรีส์ Kingdom เกือบทุกเฟรม ทุกฉาก ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูภาพวาดโดยมีภาพขนาดใหญ่ สีสันสดใสสวยงามและมีการจัดเฟรมที่ยอดเยี่ยม ในการถ่ายทำที่มีเอกลักษณ์จะช่วยเพิ่มความน่ากลัวและความยิ่งใหญ่ของฉาก นอกจากนี้ยังนำเสนอความสวยงามของเสื้อผ้าและสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของเกาหลีโบราณ แต่ยังคงความน่ากลัวไว้อย่างมีประสิทธิภาพ องค์ประกอบศิลป์ ฉาก แสง มุมกล้อง งานดีมากครับ โคตรสุด สำหรับด้านนี้ผมต้องขอชื่นชมมากๆครับ เพราะ ทุกฉากที่เราได้เห็น ทุกภาพในเรื่องนี้ มันสวยงามมากๆ การจัดแสง การวางมุมกล้อง ถ่ายทอดออกมาทำให้เรื่องนี้ดูสวย ดูถึงไปหมด โดยเฉพาะการถ่ายทำในฉากกสำคัญนั้น สามารถดึงความเท่ ดึงคาแรคเตอร์ของตัวละครออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งทำให้เรื่องนี้มีมุมมองที่โดดเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
สาเหตุหนึ่งที่หลายคนชอบซีรีส์เรื่องนี้เพราะฉากที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะใครจะคิดว่าซอมบี้จะมีอยู่ในยุคโชซอน ใครจะคิดว่าจะมีความเป็นไปได้ที่มนุษย์กินเนื้อจะมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้น เหตุผลนี้ทำให้เรื่องราวแตกต่างจากเรื่องราวซอมบี้ทั่วไปที่เราเคยเห็น การจัดระดับสีของซีรีส์ได้รับการตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยความหรูหราเมื่อมาถึง ฉากที่น่าขนลุกตัวซีรีส์จะมีเฉดสีสดใสของฤดูใบไม้ร่วงที่สดใสเช่น สีแดง ส้มและเหลือง
ส่วนในฉากทั่วไปจะมีเฉดสีบลูส์และสีน้ำตาลอมเทาเพื่อบอกถึงอารมณ์ของฉาก นอกจากนี้ยังกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเพลงประกอบที่เข้ากับแต่ละฉาก แต่ทว่า เรื่องราวของซอมบี้ที่ไม่ได้เกี่ยวกับซอมบี้จริง ๆ ตามธรรมเนียมของซีรีส์สยองขวัญ แต่ซอมบี้เป็นตัวแทนของความเจ็บป่วยทางสังคมที่มีการแบ่งชนชั้น มีความหิวโหยในอำนาจที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อในตอนแรก เหยดเข้ มีการผูกปมแล้วให้ข้อคิดเล็กน้อยในแต่ละภาคที่เชื่อมโยงกันอีกด้วย
นับว่าเป็นเรื่องราวที่โคตรจะมันส์ ดูแล้วให้อารมณ์ครบรส ทั้งโกรธ เกลียด เศร้า สงสาร ประทับใจ หรือกระอักกระอ่วนใจ มีหมดทุกความรู้สึกจริงๆ ถึงแม้ว่าตัวซีรี่ส์จะไม่ได้มีตอนยืดยาวมากมายแต่กระชับเนื่้อหาออกมาให้เราเสพได้อย่างเต็มที่ นี่แหละครับ ผลงานคุณภาพของจริง และถ้าคุณชอบบทความนี้ สามารถติดตามผลงานของผมได้ที่ เว็บรีวิวหนัง