สปอยหนัง อัศวินชิงบัลลังก์
สงครามทั้งหลายล้วนเกิดขึ้นจากความยึดถือในความเชื่อที่แตกต่างกัน ความหลงใหลมัวเมาในอำนาจ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ไม่ได้ส่งผลดีให้กับฝ่ายไหนเลย หลังจากที่เจ้าของเว็บไซต์สุดยอดรีวิวหนัง ได้เหมารวมซีรี่ส์เกาหลี ที่นักแสดงน่ารักจับใจ ถึงใจ สะท้านสมองกันมาบ้างเยอะแล้ว วันนี้ขอกลับมานี่หนัง ฝรั่ง แต่เป็นเรื่องราวชิงชิงบัลลังก์ แนวๆจีนๆ ของแถบบ้านเรากันครับ หากอยากรับชมหนังออนไลน์ หนังดี ที่ให้คุณชมทุกเรื่อง ถึงหน้าจอใกล้คุณ ได้ที่ที่ที่เดียว เว็บดูหนังฟรี
ภาพยนตร์เรื่องนี้ เริ่มเรื่องด้วยสงครามครูเสดที่มีการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์จนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ทำให้นายพลคนสำคัญของกองทัพอย่าง นิโคลัส เคจ เกิดความเบื่อหน่าย จึงตัดสินใจเดินทางไปยังประเทศจีนซึ่งในขณะนั้นกำลังมีการแย่งชิงบัลลังก์กันอยู่พอดี (ตามพล็อตหนังจีนที่เราเคยดูๆ กันมาเลยนะครับเนี่ย) ซึ่งเจ้าชายที่ควรจะต้องได้สืบทอดบัลลังก์ กลับกลายเป็นต้องเผ่นหนีเอาตัวรอดกับองค์หญิง (หลิว อี้เฟย) ที่เป็นพี่สาว เพื่อไปขอความช่วยเหลือในการช่วงชิงบัลลังก์กลับคืนมา ส่วนจะชิงกลับมาแบบไหน อย่างไร แล้วไปทำอีท่าไหนถึงพบกับ นิโคคัส เคส ได้ ผมไม่เล่านะครับ แต่ขอให้ตามไปดูกันเองในโรงหนัง จะสนุกกว่า
ในช่วงแรกๆ ที่นั่งชมภาพยนตร์ เรื่องนี้ ผมก็นึกว่า เราเข้าโรงผิดหรือเปล่าครับเนี้ย อารมณ์เหมือนกำลังดูหนังของค่ายฮอลลี่ อยู่เลย อย่างที่เกริ่นไว้ว่า เป็นหนังจีนที่มีนักแสดงจากฮอลีวู๊ดมาร่วมแสดงด้วย ในส่วนของการดำเนินเรื่อง Outcast อัศวินชิงบัลลังก์ ถือว่าทำได้กระชับฉับไวดีแม้จะมีบางช่วงที่ผมแปลกใจว่านักแสดง คนที่ทุกคนติดตามและรอคอย มันหายหัวไปไหนหว่า ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร ไปดูกันเอาเองนะครับ ที่เว็บดูหนัง
เนื้อเรื่องย่อ เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองของชาวมัวร์ในช่วงสงครามครูเสด เมืองเมืองนี้กำลังจะตกไปเป็นของพวกชาวคริสต์ ซึ่งรวมถึง แกลเลี่ยน คนสำคัญคนหนึ่งในกองทัพครูเสด และผู้เป็นอาจารย์ของ เจค็อบ แกลเลี่ยน เริ่มรู้สึกเหนื่อยกับสงครามและการฆ่าชาวบ้านบริสุทธิ์ เขาบอกเจค็อบว่าเขาจะออกเดินทางไปทางทิศตะวันออก ณ ประเทศจีน กองกำลังที่จงรักภักดีต่อ ชิง องค์ชายคนโตของพระมหาจักรพรรดิกำลังก่อการรัฐประหาร ก่อนที่ องค์ชายชิง จะมาถึงวัง พระมหาจักรพรรดิได้ประกาศยกบัลลังก์ให้กับบุตรชายคนสุดท้องของเขาและแต่งตั้ง เจ้าชายเชา เป็นรัชทายาท แต่เจ้าชายเชาและพี่สาวเจ้าหญิงเหลียน ได้หลบหนีออกจากพระราชวังไปยังที่ประจำการของนายพลแห่งกองทัพที่อยู่ไกลออกไป เจ้าหญิงเหลียน และเจ้าชายเชา ไปโผล่ในโรงเตี๊ยมที่พวกเขาพยายามที่จะขอความช่วยเหลือ พวกเขาได้พบกับ เจค็อบ ผู้ที่หนีออกมาจากทุ่งสังหารแห่งสงครามครูเสด และการช่วยเหลือระหว่าง 2 ชนชาติและการต่อสู้เพื่อกู้บัลลังก์จึงได้เริ่มต้นขึ้น
สปอยหนัง อัศวินชิงบัลลังก์ บทบาทของนักแสดง
จากบทบาทของนักแสดงมือทองแต่ละคนขอบอกว่าคุณจะได้รับชมหนังเรื่องนี้ อยากจุใจและอิ่มหน้ำไปด้วยคุณภาพแน่นอน
สำหรับนักแสดงนำทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็น แกลเลี่ยน (นิโคลัส เคจ) เจค็อบ (เฮย์เดน คริสเตนเซน) และ เจ้าหญิงเหลียน (หลิว อี้เฟย) ผมถือว่าสอบผ่านได้แบบสบายๆ ทุกคน โดยเฉพาะ หลิว อี้เฟย ซึ่งสวยงาม น่ารักมาก จนทำให้ผมราวกับต้องมนต์สะกดของเธอ (โห เว่อร์ไปมะ55) ถึงขั้นบางช่วงบางตอน ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยได้สนใจหนังเท่าไหร่เพราะมัวแต่ไปสนใจ หลิว อี้เฟย แทน 555
เริ่มมาที่คนแรกก่อน คือ เฮย์เดน คริสเตนเซน (HAYDEN CHRISTENSEN) รับบท เจค็อบ
เขาชนะรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก National Board of Review และได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและ SAG Award สำหรับบทบาทในภาพยนต์เรื่อง บ้านที่สร้างด้วยรัก (Life as a House) และสร้างชื่อกับบทบาท อนาคิน สกายวอร์คเกอร์ ในภาพยนต์สตาร์วอส์ตอนที่สอง:การโจมตีของโคลน และตอนที่สาม:การแก้แค้นของซิธ ของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง จอร์จลูคัสและหนัง Sci-Fi เรื่อง Jumper กำกับโดยดั๊ก ไลแมน และการร่วมงานกับนิโคลาส เคจครั้งแรกในภาพยนต์เรื่อง Outcast, อัศวินชิงบัลลังก์ และเมื่อเร็วๆนี้เขาได้รับบทบาทใหม่เป็นผู้บริหารที่บริษัทสร้างภาพยนต์กลาเซีย และเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับภาพยนต์เรื่อง Cooties เร็วๆนี้แน่นอน
นิโคลาส เคจ (Nicolas Cage) รับบท เกลเลียน
นักแสดงที่มีความหลากหลายมากที่สุดคนหนึ่งของยุค ซึ่งเล่นได้ทั้งดราม่า และภาพยนต์ตลก หลังมานี้นิโคลัสโด่งดังจากหนังแอคชั่นหลากหลาย อาทิจากเรื่อง National Treasure ซึ่งประสบความสำเร็จทั้งสองภาค ยังไม่รวมถึงหนังที่เข้าขั้นคลาสสิคอย่าง The Rock, Con Air และภาพยนต์ที่ทำให้เขาชนะรางวัลออสการ์อย่าง Leaving Las Vegas ซึ่งเขามาในบทชายผู้ติดเหล้า ปัจจุบันเขายังได้เป็นฑูตสำหรับความยุติธรรมของสหประชาชาติอีกด้วย ซึ่งเริ่มต้นในปี 2009 และเขาได้เดินทางไปยังทวีปแอฟริกาเพื่อเรียกร้องให้หยุดการลักพาตัว การค้ามนุษย์ การค้าทาส นอกจากนี้เขายังรับเป็น ลูมินารี่ ขององค์การนิรโทษกรรมสากลซึ่งเน้นงานด้านมนุษยธรรม
หลิว อี้เฟย (LIU YIFEI) รับบท เจ้าหญิงเลียน
นักแสดงชื่อดังในวงการบันเทิงจีน เธอเริ่มอาชีพในวงการเมื่อจบการศึกษาจากสถาบันภาพยนต์ปักกิ่งทันที และโด่งดังเป็นพลุแตกในเวลาไม่กี่ปีกับละครเรื่อง เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี (The Return of the Condor Heroes) และก้าวไปสู่วงการบันเทิงระดับโลกด้วยบทบาทในภาพยนต์เรื่อง The Forbidden Kingdom, หนึ่งฟัดหนึ่ง ใหญ่ต่อใหญ่ เคียงข้างเจ็ท ลี และเฉินหลง ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังได้รางวัลทางด้านการแสดงมากมายทั้งในประเทศจีน และข้ามฝั่งไปยังฮ่องกงด้วย ภาพยนต์เรื่องอัศวินชิงบัลลังก์ เป็นภาพยนต์หนึ่งในสี่เรื่องในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปีที่ยุ่งมากๆสำหรับเธอแน่นอน
แอนดี้ ออน (Andy On) รับบท ชิง
ผู้ที่เกิดและเติบโตในโรด ไอร์แลน์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่มาแจ้งเกิดในวงการภาพยนต์ฮ่องกงจากการค้นพบของซุย ฮาร์ค ทำให้เขาได้ร่วมงานกับเจ็ท ลีให้ภาพยนต์หลายเรื่อง และได้ร่วมแสดงในภาพยนต์ฮ่องกงอีกหลายเรื่อง รวมทั้งกับไอดอลของเขาอย่างเฉิน หลง และเซียะถิงฟง และเขายังมีภาพยนต์ฟอร์มยักษ์อีกหลายเรื่องที่จะทำให้คุณประทับใจ
โดยเรื่องนี้ได้ผู้กำกับมือฉมัง นิโคลัส พาวเวลล์ (NICHOLAS POWELL) เริ่มต้นด้วยการเป็นนักแสดงหลังจากจบการศึกษาด้านการแสดงจากลอนดอน และประสบการณ์ 25 ปีในโลกภาพยนต์ทำให้เขาได้ประสบการณ์หลากหลายทั้งออกแบบท่าเต้น การประสานงาน และได้ร่วมงานกับภาพยนต์ใหญ่ เช่น Bourne Identity, The Last Samurai และ 28 Days Later เขาก้าวไปสู้การเป็นผู้ออกแบบการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงเบอร์ต้นของฮอลลีวู้ด และได้ฝึกสอนนักแสดงแถวหน้า เช่น Russell Crowe, Tom Cruise และแบรด พิทท์ ภาพยนต์เรื่อง อัศวินชิงบัลลังก์ เป็นภาพยนต์ทุนสร้างสูงสุดในประวัติการกำกับของนิโคลัสซึ่งเราจะได้เห็นฝีมือของเขาบนจอใหญ่เร็วๆนี้
หนังเรื่องนี้มีบางอย่างที่ใกล้เคียงกับภาพยนต์คาวบอยสปาร์เกตตี้ แต่หลากหลายมากในเรื่องราวของฉากหลังและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ผู้กำกับนิโคลัส พาวเวล กล่าว โดยการวางตัวนักแสดงหลากหลายเชื้อชาติทำให้ได้พบกับความกระตือรือร้น ทีมงานระดับมืออาชีพ และความคิดสร้างสรรค์ของนักแสดงที่หลากหลาย และการมาถ่ายทำในประเทศจีนนั้นมีกองท้องถิ่นที่ทำให้การถ่ายทำราบรื่น
เดิมบทเรื่องนี้วางเรื่องไว้ในประเทศอังกฤษในช่วงปลายสหัสวรรษที่หนึ่ง โดยเจมส์ ดอเมอร์ผู้เขียนบทเขียนเกี่ยวกับสิบสี่วันสุดท้ายของประวัติศาสตร์สองพันปี ซึ่งเป็นเรื่องราวของคนดีที่ได้ทำผิดและพยายามที่จะล้างความนั้น มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความกลัวและการตัดสินใจ ต่อมามีการปรับเปลี่ยนมาเป็นฉากเมืองจีน แต่หัวใจของเรื่องไม่ได้เปลี่ยนไป
ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเอกทั้งสองตัวที่เล่นโดยเฮเดนและนิโคลาส เคจ และนักแสดงที่เดินทางข้ามโลกมาเพื่อปะทะฝีมือกันอย่างดุเดือดในภาพยนต์เรื่องนี้ ต่างแสดงฝีมือกันได้อย่างสมชื่อ
ความท้าทายใหญ่อีกเรื่องของการสร้างภาพยนต์เรื่องนี้คือการร่วมมือสร้างระหว่างทีมงานชาวจีน แคนาดา และฝรั่งเศสซึ่งไม่เพียงแตกต่างกันด้านเวลาและสถานที่แต่การเข้าปะทะกันระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างนั้นสร้างความน่าสนใจให้กับตัวภาพยนต์ได้มาก
สงครามทั้งหลายล้วนเกิดขึ้นจากความยึดถือในความเชื่อที่แตกต่างกัน ความหลงใหลมัวเมาในอำนาจ ซึ่งสุดท้ายแล้ว ไม่ได้ส่งผลดีให้กับฝ่ายไหนเลย
หนังเรื่องนี้ทำได้ดีอย่างที่ตั้งความหวังไว้รึเปล่า
เรามาดูคะแนนสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้กันเลยดีกว่า เริ่มที่บทภาพยนตร์ได้ ที่ให้เท่านี้เพราะพล็อตเรื่องเหมือนกันกับหนังอื่นๆ ในแนวนี้ คือสามารถคาดเดาได้เลยว่าเรื่องจะดำเนินต่อไปแบบไหนอย่างไร แต่ในส่วนของดารานำ เลย เพราะนักแสดงแต่ละคนเข้าถึงบทบาทของตนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะดารานำฝ่ายหญิงอย่าง หลิว อี้เฟย นี่ดึงคะแนนในส่วนนี้จากผมไปได้มาก (ลำเอียงไปรึเปล่าเนี่ย อิอิ)
อย่างที่รู้ๆ กันว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังแนวแอคชั่นบู๊ล้างผลาญ ดังนั้นคะแนนในส่วนของฉากการต่อสู้นี้ต้องยกให้เขานะ ผมให้ที่ โดยสรุปภาพรวมของหนัง Outcast อัศวินชิงบัลลังก์ ได้ไปจากผมไปที่ ตีตั๋วเข้าไปดูกันเถอะครับ รับรองไม่ผิดหวัง แค่ไปนั่งดูหน้านางเอกอย่างเดียวก็คุ้มแล้ว แฮ่ม
จากที่ได้ไปชมมา คิดว่าช่วงยุ่คสมัยของโครงเรื่องมีส่วนคล้ายคลึงกับเรื่อง ดาบมังกรฟัด หรือ Dragon Blade ที่ฉายและเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ไปก่อนหน้านี้ แต่…การตีความและเนื้อเรื่องช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการแต่งเรื่องขึ้นมาโดยไม่มีการอิงประวัติศาสตร์ซึ่ง ซึ่งทีแรกคิดว่าเนื้อเรื่องน่าจะแลดูมีที่มาที่ไปมากกว่านี้โดยเฉพาะเนื้อเรื่องเกี่ยวกับที่มาที่ไปของ เจค็อบน่าจะมีความชัดเจนมากกว่านี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเนื้อเรื่องดำเนินค่อนข้างช้าและรายละเอียดน้อยมาก จึงทำให้รู้สึกว่าจืดชืดไปหน่อย
สำหรับเรื่องภาพนั้น อยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ แต่ด้วยความที่มีฉากที่เป็นลักษณะบุคคลที่ 1 ที่กำลังสลึมสลือในช่วงต้นก่อนถึงกลางเรื่องบ่อยมาก และในหลายๆฉากเปลี่ยนมุมกล้องไวมากทำให้ตาลายอยู่เป็นพักๆ ส่วนด้านเครื่องแต่งกายตัวละครและวิวฉากซีจีต่างๆนานาก็นับว่าอยู่ในระดับไม่เลวเลย โดยเฉพาะวิวเวลามุมกล้องเสยขึ้นมีความงดงามมากๆ (ชอบฉากเป็นการส่วนตัว)
ส่วนการแปลบทนั้น ทำได้ดี แม้ว่าจะมีคำบรรยายบางส่วนที่รู้สึกว่าไม่ลื่นไหลเท่าไหร่ และมีผิดเพี๊ยนจากเสียงภาษาอังกฤษไปบ้าง(ไม่กี่คำ) แต่ก็ไม่ถึงกับขัดใจหรือขัดสายตา ความชักเจนของเสียงอยู่ในขั้นดีกว่าหลายๆเรื่องที่เคยชม
สรุปโดยรวม
เป็นภาพยนตร์ที่เนื้อหามีน้อยมากและรายละเอียดหลายๆอย่างไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ก็ยังถือว่าเนื้อเรื่องมีทิศทางการดำเนินเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้ว เลยทำให้ดูเพลินไม่น่าเบื่อ แต่เรื่องความสนุกแล้วแต่คนจริงๆ(แต่ข้าน้อยว่าผ่านนะเรื่องการที่คนดูมีอารมณ์ร่วมกับภาพยนตร์ได้) นอกจากนี้ในตัวหนังยังมีมุมสะท้องถึงการให้มีสติระมัดระวังตัวอยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนไม่คุ้นเคย
สุดท้ายก็แอบผิดหวังเล็กๆตรงที่คาดหวังไว้ว่าการเอานักแสดงที่ค่อนข้างมีชื่อมาแสดงหลายคน แต่ตัวภาพยนตร์กลับไม่สามารถขับเสน่ห์ของเหล่านักแสดงออกมาทางตัวภาพยนตร์อย่างได้เต็มที่ และจนจบก็ยังทิ้งคำถามหลายๆอย่างไว้ด้วย ทำให้รู้สึกเหมือนหนังจบแล้วสมองยังมึนๆ ยังไม่เข้าใจ
“Outcast อัศวินชิงบัลลังก์” (2014)
ชื่ออื่นๆ: 《白幽灵传奇之绝命逃亡》,Outcast (2014)
นำแสดงโดย: หลิวอี้เฟย เฮย์เดน คริสเตนเซน นิโคลัส เคจ
ฉายจริง: 26 – 31 มีนาคม 2558
สัญชาติ: จีน, สหรัฐฯ
ช่องทางการรับชม :เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา
ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ที่จะไปดู ไม่แนะนำให้คนเวียนหัวง่ายไปดูเพราะฉากมาเวียนหัวมีอยู่เยอะ เด็กๆที่ไปดูควรได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ เพราะฉากความรุนแรงเยอะ หลิวอี้เฟยบทเยอะมาก เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักเลยทีเดียวและเป็นหนึ่งในน้อยเรื่องที่หลิวอี้เฟยแสดงแล้วตัวละครในบทมีชีวิตอยู่ยันหนังจบ นิโคลัส เคจ บทน้อยกว่า เฮย์เดน คริสเตนเซน เยอะนะ แฟนคลับ นิโคลัส เคจ โปรดทำใจ บทน้อยแต่ก็ไม่ได้โดนเมินหรือทอดทิ้งนะครับ เพราะแต่ละบทนั้นสำคัญต่อเนื้อเรื่องทั้งนั้น
หากท่านชอบบทความนี้และอยากให้ผมรีวิวหนัง เรื่องไหนอีก ติดตามต่อเรื่องอื่นๆได้ที่ เว็บรีวิวหนัง