รีวิว Harry Potter 20th Anniversary : Return to Hogwarts

รีวิว Harry Potter 20th Anniversary

ในโอกาสที่เริ่มมีใหม่ ของ ศักราช 2022 วันนี้ผมจะหยิบยก หนังสารคดีที่กลายเป็นของขวัญอันยอดเยี่ยมของชาวมักเกิล ต้อนรับศักราชใหม่ อย่าง “Harry Potter 20th Anniversary: Return to Hogwarts” ได้ฤกษ์ปล่อยฉายอย่างเป็นทางการแล้ว ทาง เอชบีโอแม็กซ์ และ เอชบีโอโก ทั่วโลก ที่ทำให้แฟนๆ ได้รู้สึกตื้นตันใจอีกครั้ง กับการกลับเข้าสู่โลกเวทมนตร์อีกครั้ง ในวาระครบรอบ 20 ปี นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ได้โลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์ม ได้สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกเอาไว้ได้อย่างจีรังยั่งยืนถึงปัจจุบัน ที่ทุกคนรับชมได้ที่ เว็บดูหนังออนไลน์

 

 

และในหนังสารคดี Return to Hogwarts นอกจากจะเป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของทีมนักแสดงและทีมงานผู้สร้าง ไม่ว่าจะเป็น “แดเนียล แรดคลิฟฟ์”, “รูเพิร์ท กรินท์” และ “เอ็มม่า วัตสัน” พวกเขายังได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกันและทบทวนถึงความทรงจำอันงดงามต่างๆ ที่เคยมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับหนังชุดนี้ นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นตั้งแต่หนังยังไม่ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง และหนึ่งในไฮไลท์ที่น่าสนใจก็คือเรื่อง(ไม่)ลับๆ หลากหลายประเด็นที่ถูกนำมาตีแผ่ในสารคดีเรื่องนี้ ที่เราหยิบเอามาเหล่าเป็นน้ำจิ้มๆ แค่บางส่วนเท่านั้น ถ้าอยากรับชมเต็มๆต้องไปดูที่ เว็บดูหนัง

 

 

แดเนียล แรดคลิฟฟ์ เกือบไม่ได้เป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์ เพราะจะไม่มาออดิชั่น งานการเฟ้นหานักแสดงที่จะมารับบทต่างๆ ในหนัง Harry Potter เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งในหนังชุดนี้ แต่ “คริส โคลัมบัส” ผู้กำกับหนัง 2 ภาคแรกได้บังเอิญไปเห็น แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ที่เขาเคยเล่นหนังกับทางช่องบีบีซีเอาไว้ และเขาก็รู้สึกสนใจและมองเห็นภาพเขาคือแฮร์รี่ในทันที จึงให้ทีมงานติดต่อให้พาเขามาออดิชั่นและทดสอบหน้ากล้อง แต่ปรากฏว่าเส้นทางไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด

ก็เพราะว่าครอบครัวของแดเนียลไม่ค่อยเห็นด้วยและไม่อยากจะสนับสนุนให้ลูกของพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับแฟรนไชส์หนังนี้ เพราะว่าเป็นหนังชุดใหญ่เกินตัว และจำเป็นผูกสัญญานักแสดงในระยะยาว ซ้ำยังต้องบินไปมาถ่ายทำระหว่างอังกฤษกับสหรัฐอเมริกาด้วย อีกทั้งพ่อแม่ของแดเนียลก็ไม่ค่อยอยากให้เขาเดินทางในสายอาชีพนักแสดงเท่าไหร่ด้วย แต่เพราะด้วยทักษะและคารมของ “เดวิด เฮย์แมน” ผู้อำนวยการสร้างของหนัง Harry Potter จึงทำให้พ่อของแดเนียลใจอ่อนและยอมปล่อยให้เขามาทดสอบบท ก่อนจะคว้าบทได้ในที่สุด

 

 

มีแค่เพียง อลัน ริกแมน คนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่องราว Harry Potter ตั้งแต่เริ่มจนจบ “แกรี่ โอลด์แมน” ได้นั่งพูดคุยกับ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ถึงช่วงเวลาที่พวกเขาได้ร่วมงานกับ “อลัน ริกแมน” นักแสดงผู้ล่วงลับที่รับบทเป็น “เซเวอร์รัส สเนป” ในเรื่อง โดยพวกเขาเชื่อว่า อลันเป็นเพียงนักแสดงคนเดียวทั้งเรื่องที่รู้เรื่องราวทั้งหมดของ Harry Potter รวมทั้งเขารู้ถึงบทสรุปทั้งหมดด้วย ในขณะที่นักแสดงคนอื่นๆ จะรู้เพียงแค่เนื้อหาในบทหนังที่พิมพ์ออกมาในกองถ่ายเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะเป็นสิ่งที่เขาต้องทำการบ้านและล่วงรู้ก่อน เพื่อผลลัพธ์ทางการแสดงในฉากต่างๆ ให้ออกมาด้วยความสมเหตุสมผล แม้กระทั้งผู้กำกับสั่งคัทและถามเขาว่าทำไมถึงแสดงออกมาแบบนั้น เขาจะตอบแค่ว่า “เดี๋ยวผมค่อยบอกทีหลังนะ”

สาเหตุที่ทำให้ผู้กำกับ ไมค์ นีเวลล์ บาดเจ็บซี่โครงหักกลางกองถ่าย ไมค์ นีเวลล์ มาเป็นผู้กำกับในภาคที่ 4 “Harry Potter and the Goblet of Fire” ที่ตอนนั้นมีข่าวว่าเขาประสบอุบัติเหตุกลางกองถ่าย ทำให้ได้รับบาดเจ็บมีอาการกระดูกซี่โครงหัก แต่สาเหตุได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว ก็เป็นเพราะว่าเขาลงทุนลงแรงเข้าไปสาธิตฉากต่อสู้ของคู่แฝด เฟรด กับ จอร์จ วีสลีย์ ทะเลาะกัน และเขาออกแรงสุดตัวผนวกกับอินไปหน่อย และปัจจุบันนี้ เจมส์ เฟลป์ส ยังมีฉายาติดตัวที่ว่า “เด็กที่ทำให้ผู้กำกับแฮร์รี่ พอตเตอร์กระดูกหัก”

 

 

สารภาพรักกลางรายการ

เอ็มม่า วัตสัน สารภาพว่าเคยแอบชอบ ทอม เฟลตัน ตั้งแต่แรกพบ แน่นอนว่า Harry Potter เป็นหนังที่นักแสดงจะต้องคลุกคลีร่วมงานและพบปะกันเป็นส่วนหนึ่งในช่วงชีวิตเลยก็ว่าได้ และเรื่องของหัวใจก็เหนี่ยวรั้งไว้ไม่ได้เช่นกัน เอ็มม่า วัตสัน ยอมรับสารภาพอย่างตรงไปตรงมาว่า

เธอเคยแอบชอบ “ทอม เฟลตัน” ผู้ที่รับบทเป็น “เดรโก มัลฟอย” เธอชอบเขาตั้งแต่ก่อนจะเวิร์กช็อปก่อนจะเริ่มถ่ายทำหนังด้วยกัน เธอมีความสุขทุกครั้งที่ไปกองถ่ายและพบว่าในวันนั้นเขาก็มาทำงานด้วย แต่ความรู้สึกทั้งหมดนั้นก็เป็นได้แค่ในรูปแบบความรักฉันท์พี่น้องที่ดีต่อกัน โดยเธอยืนยันว่าพวกเขาไม่เคยมีความสัมพันธ์โรแมนติกด้วยกันเลยแม้แต่น้อยในช่วงเวลาที่ผ่านมา

แดเนียล แรดคลิฟฟ์ แอบสารภาพรักต่อ เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ แม้ว่าในหนังจะเป็นคู่ปรปักษ์อยู่ฝ่ายตรงข้ามกัน แต่ในชีวิตจริงนั้นพวกเขารักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี และ “เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์” ผู้ที่รับบทเป็น “เบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์” ได้งัดเอารูปหนึ่งออกมาที่มีข้อความของแดเนียลได้เขียนเอาไว้ให้เธอเมื่อครั้งตอนที่เขายังเป็นเด็ก

โดยมีเนื้อหาใจความในทำนองสารภาพรัก “หากว่าผมเกิดเร็วกว่านี้สัก 10 ปีก็คงจะมีความหวัง” เป็นข้อความที่ทำให้นักแสดงหนุ่มรู้สึกอายตัวเองที่เคยเขียนอะไรไปเช่นนั้น ขณะที่เฮเลนาบอกว่า ปัจจุบันเธอเก็บโน้ตนี้แปะเอาไว้ในห้องน้ำที่บ้าน

 

 

เอ็มม่า วัตสัน เกือบจะลาออกจากหนังกลางคัน เพราะความรู้สึกโดดเดี่ยว

ช่วงก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ “Harry Potter and the Order of the Phoenix” ได้สารภาพว่า เธอมีแนวคิดที่จะไม่กลับมารับบทในหนังเรื่องนี้อีกต่อไปและไม่ต้องการจะข้องเกี่ยวกับจักรวาลเวทมนตร์แห่งนี้อีกแล้ว เนื่องจากสภาวะในตอนนั้นที่ทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวกับแวดล้อมร่ายล้อม

เธออธิบายว่าในตอนนั้น Harry Potter กำลังดังระเบิดและมีอิทธิพลไปทั่วโลก แฟนๆ นับล้านชื่นชอบมากๆ แต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างน่าประหลาดใจ และคิดว่ากระแสเช่นนี้จะติดตัวตัวเองไปตลอดกาล จึงทำให้เธอไม่อยากที่จะรู้สึกเช่นนี้อีก และคิดที่จะหยุดเล่นหนังเรื่องนี้เอาไว้กลางคั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน เธอก็ได้ครุ่นคิดและพิจารณาโดยที่ไม่มีใครแนะนำใดๆ เธอแรงผลักดันของแฟนๆ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะกลับมาสานต่อไปจนถึงที่สุดจุดมุ่งหมาย

 

 

รีวิว Harry Potter 20th Anniversary หนังเรื่องนี้ซ่อนอะไรไว้บ้าง

ความน่าสนใจของ Return to Hogwarts ไม่ใช่แค่เพียงการนำภาพฟุตเทจเหตุการณ์ย้อนอดีตเบื้องหลังการทำงานมาให้ผู้ชมดูเท่านั้น แต่เหล่านักแสดงนำที่เคยเป็นส่วนหนึ่งในแฟรนไชส์หนังชุดนี้ ได้มีโอกาสกลับมานั่งพูดคุยกันราวกับงานเลี้ยงสังสรรค์พบปะเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมาเนิ่นนาน ผู้ชมจึงสัมผัสได้ถึงความ “คิดถึง” ที่พวกเขามีต่อกันตลอดช่วงเวลาที่ถ่ายทำภาพยนตร์ และภายหลังจากหนังภาคสุดท้ายปิดกล้องไป พวกเขาก็ต่างแยกย้ายเติบโตกันไปในเส้นทางสายนักแสดงอย่างประสบความสำเร็จ

สิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นคือการเปิดเผยฟุตเทจการแคสติ้ง 3 นักแสดงนำอย่างแดเนียล แรดคลิฟฟ์, เอมม่า วัตสัน และรูเพิร์ต กรินต์ ในบทบาทแฮร์รี่ พอตเตอร์, เฮอร์ไมโอนี่และรอน วิสลีย์ ซึ่งสิ่งที่เราได้เห็นนั้นแทบจะบอกได้เลยว่าพวกเขาเกิดมาเพื่อรับบทตัวละครเหล่านี้อย่างแท้จริง

 

 

ในรูปแบบการนำเสนอของตัวรายการ ใช้การย้อนเวลากลับไปที่หนังภาคแรก และค่อยๆเผยให้ผู้ชมเห็นว่า โครงสร้างของแฟรนไชส์ Harry Potter ที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้กำกับในแต่ละภาคนั้น เป็นผลมาจากเรื่องราวของตัวละครที่เติบโตขึ้นตามช่วงวัย ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในช่วงภาค 1-2 นั้นแฮร์รี่ยังอยู่ในวัยเด็ก

โทนเรื่องราวที่เกิดขึ้นจึงยังเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและโลกเวทมนตร์อันแสนมหัศจรรย์ แต่เมื่อหนังกระโจนเข้าสู่ภาค 3 Harry Potter and the Prisoner of Azkaban พวกเขาก็เติบโตเป็นวัยรุ่นและความมืดหม่นก็เริ่มย่างกรายเข้ามาทีละเล็กทีละน้อย ทำให้สตูดิโอเปลี่ยนตัวผู้กำกับจากคริส โคลัมบัส เป็นอัลฟอนโซ กัวรอน เพื่อให้ตัวหนังมีโทนเรื่องที่จริงจังเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น

นอกเหนือไปจากนี้แล้ว Return to Hogwarts ยังพาผู้ชมไปสำรวจแง่มุมน่าสนใจอาทิ คู่จิ้นอย่างทอม เฟลตัน (รับบท มัลฟอย) และเอ็มม่า วัตสัน ที่แฟนหนังต่างลุ้นกันว่าทั้งสองคนจะคบหาชอบพอกันหรือเปล่า แต่ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็เคลียร์ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่เป็นเหมือนเพื่อนที่ห่วงใยกันมากกว่า ยังไม่รวมไปถึงการพาผู้ชมสดุดีเหล่านักแสดงที่ปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้วว่ามีใครกันบ้าง และทำไมเรายังควรหวนคิดถึงพวกเขาอยู่

โดยรวมแล้ว Harry Potter 20th Anniversary: Return to Hogwarts คือผลงานที่จะพาแฟนๆหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์หวนกลับไปดื่มด่ำช่วงเวลาดีๆที่เราเติบโตมาพร้อมกับแฟรนไชส์ชุดนี้ และคงเป็นโอกาสที่ดีที่เมื่อเราดูรายการนี้จบแล้ว อยากจะทำให้เราย้อนกลับไปดู Harry Potter ตั้งแต่ภาคแรกซ้ำอีกครั้ง

 

 

และถ้าเกิดว่ามีความรู้สึกนี้ขึ้นมา แล้วอยากดูหนังออนไลน์ ดูหนังทุกเรื่อง ครบ จบ ที่เว็บเดียว ต้องชวนให้มาดูกันที่เว็บนี้เลยครับ เว็บดูหนังฟรี

ถ้าคุณชอบบทความการรีวิว ผมจะหามาให้คุณได้อ่านกัน ทั้งรีวิวหนัง สปอยหนัง รวมถึงซีรี่ย์ และ อนิเมะ มากมาย ได้ที่ เว็บรีวิวหนัง