รีวิวซีรี่ส์ เด็กใหม่
ถ้าพูดถึงซีรี่ส์ไทย เรื่องที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยคือ เด็กใหม่ ซีซั่น 1 หรือ Girl From Nowhere ซีรีส์ไทยแนว Mystery Suspense Thriller จากค่าย Sour Bangkok ซึ่งอำนวยการสร้างโดย GMM Grammy มีเนื้อหาเสียดสีจิกกัดสังคมได้แสบทรวงกันเลยทีเดียว โดยมีแรงบันดาลใจมาจากข่าวฉาวที่เกิดขึ้นจริงในสังคม หลังเคยสร้างประสบการณ์ฮือฮากันมาแล้ว ในซีซันที่หนึ่ง คราวนี้ Girl From Nowhere กลับมาสานต่ออีกครั้งในซีซันที่สอง และในเมื่อซีซันแรกนั้น นายแพทไม่ได้เขียนถึงไป คราวนี้ก็เลยได้เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนถึง เด็กใหม่ ผลงานของ Jungka Bangkok, SOUR Bangkok อยากดูเรื่องนี้ไปดูได้ทุกตอนที่ เว็บดูหนังฟรี
ที่ครั้งแรกได้ฉายทางทีวี ผ่านมาอีกสามปีมีซีซันสองฉายลง Netflix ปัจจุบันออกอากาศมาได้ 2 Season แล้ว โดย Season 1 ออกอากาศเมื่อปี 2018 มีจำนวน 13 Episode (แต่ถ้านับจำนวนเรื่องจริงๆ ก็จะมีแค่ 11 เรื่องเท่านั้น เพราะมี 2 เรื่องที่มีความยาว 2 Episode) และ Season 2 ออกอากาศเมื่อปี 2021 มีจำนวน 8 Episodeและได้กระแสจากคาแรกเตอร์ที่ค่อนข้างแรง แถมหยิบจับเรื่องราวจริงในสังคมพูดถึงในแบบ โคตรจะเรียล เรียกได้ว่าเป็นสังคมในมุมมืดที่ใครๆคาดไม่ถึง เพราะมัวแต่ปิดตาข้างเดียวอยู่รึเปล่า เว็บดูหนัง
ที่พูดอย่างนี้เพราะแม้ เด็กใหม่ The Series จะจั่วหัวตัวใหญ่ๆ ว่าเป็นซีรีส์เกี่ยวกับ ‘ผู้หญิง’ แต่ผู้หญิงที่ปรากฏในเรื่องล้วนยักไหล่ใส่ขนบความอ่อนหวาน บอบบาง เรียบร้อย และพัวพันอยู่กับเรื่องราวดาร์ก ดิบ ที่มีอยู่ในสังคมของเราจริงๆ
นาทีนี้คงไม่มีใครรู้จักกับ “แนนโน๊ะ” เด็กผู้หญิงจากซีรีส์ไทยเรื่อง Girl From Nowhere The Series หรือชื่อไทยในชื่อเรื่อง “เด็กใหม่” ซีรีส์เพื่อผู้หญิง แนว Mysterious – Fantasy สร้างจากข่าวฉาวและจริงในรั้วโรงเรียน ถูกนำเสนอผ่านผ่าน 9 ผู้กำกับมากฝีมือและนำแสดงโดยตัวละครที่ชื่อ “แนนโน๊ะ” ตัวละครที่ไม่มีใครรู้ประวัติเธอ และเธอจะย้ายไปเป็นเด็กใหม่ ทั้ง 13 โรงเรียน ในทุกๆตอน ซึ่งถ้าพลาดตอนไหนไปต้องรอชมใน Netflix พร้อมคนทั้งโลกหลังออกอากาศครบทั้ง 13 ตอน และที่สำคัญเวอร์ชั่นที่จะลงในเน็ตฟลิกซ์นั้นเป็นเวอร์ชั่นอันเซนเซอร์ ซึ่งบางฉากอาจเปลี่ยนตอนจบหรือเนื้อหาไ้ด้เลย ถ้าอยากดูก่อนเต็มๆไม่อยากมีโฆษณามากวนใจ รับชมได้ที่ เว็บดูหนัง
โดยรวม มันเป็นซีรีส์ที่ไม่ได้ตั้งใจจะประนีประนอมอยู่ก่อนแล้ว ใส่คาแรกเตอร์ให้ตัวเอกอย่าง แนนโน๊ะ เป็นเด็กนักเรียนคนใหม่ที่มุ่งหมายเข้าไปแทรกซึมในโรงเรียนต่างๆ เพื่อกระทำตนเป็นผู้พิพากษา-ศาลเตี้ย ด้วยแนวทางแบบเบี้ยวๆ เรื่องที่อิงจากพื้นฐานความจริงแต่เล่าให้เกินจริง เกินจะเชื่อ จุดประสงค์ก็คือมุ่งหมายจิกกัดสังคม ทั้งเป็นตัวแทนผู้ถูกย่ำยีช่วยแก้แค้นเอาคืนให้สาสม
รีวิวซีรี่ส์ เด็กใหม่ เนื้อเรื่องของเรื่องนี้
เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ เรื่องราวของ แนนโนะ เด็กสาวปริศนาที่ย้ายโรงเรียนใหม่ไปเรื่อยๆ ในทุกๆ ตอน เพื่อจัดการสั่งสอนและลงโทษผู้ที่มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในโรงเรียนเหล่านั้น (ในมุมมองของ แนนโนะ) โดยใน Season 1 นั้นเป็นเรื่องราวแบบจบในตอน จำนวน 11 เรื่อง แบ่งเป็น 13 Episode ดังนี้ ผมจะยกตัวอย่างให้ดูสั้นๆ พอหอมปากหอมคอนะครับ ส่วนใครอยากรู้เนื้อเรื่องเต็มๆ ต้องติดตามที่ เว็บดูหนังฟรี
ตอนที่ 1 (Episode 1) “The Ugly Truth” “ครูข่มขืนนักเรียนจนท้อง“
ในวันที่ แนนโนะ ย้ายเข้ามาในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง ซึ่งมี ครูวิน (รับบทโดย แก็ป ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล) ครูหนุ่มสุดฮอตและมีภาพลักษณ์ที่แสนดี ดูแลในเรื่องของการจัดทำสื่อการสอนรูปแบบใหม่ๆ เพื่อที่จะเข้าถึงเด็กนักเรียนและส่งเสริมประสิทธิภาพในการเรียนให้ดียิ่งขึ้น โดยล่าสุด ครูวิน ได้นำเ สนอให้มีการจัดทำได้คลิปวิดีโอการฝึกโยคะเพื่อการเจริญสมาธิ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนหันมาสนใจการออกกำลังกายแทนที่จะหมกมุ่นเรื่องเพศ ซึ่ง ครูวิน ได้เข้ามาขออาสาสมัครนักเรียนให้ไปช่วยเป็นแบบสำหรับถ่ายคลิปวิดีโอดังกล่าว โดยอาสาสมัครในครั้งนี้ก็คือ แนนโนะ และ อิง และแล้วการถ่ายทำคลิปวิดีโอก็เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับความสัมพันธ์ระหว่างครูและลูกศิษย์ที่เริ่มถลำลึกลงไปเรื่อยๆ พร้อมกับความจริงที่เน่าเฟะของผู้ที่ได้ชื่อว่า แม่พิมพ์ของชาติ
ซีรีส์ระทึกขวัญแฟนตาซีเรื่องนี้ สร้างซีซันหนึ่งมาตั้งแต่ปี 2018 ก่อนที่จะกลับมาต่อซีซันสองในปี 2021 ซีซันแรกก็สร้างความฮือฮาไปทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่โคตรหมิ่นเหม่แต่มีแง่มุมจริง ความหวือหวาของคาแรกเตอร์แนนโน๊ะที่ดูแรง แรงไปทุกส่วน แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือคิทตี้ ชิชา ดูเซ็กซี่และน่ามองมากจริงๆ บุคลิกและลีลาการแสดง คือ นี่แหละแนนโน๊ะที่ผู้กำกับต้องการ
ความน่าสนใจของเด็กใหม่
ไม่ต้องดูก็รู้ว่าบทบาทที่โดดเด่นที่สุดในเรื่อง เด็กใหม่ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบท ‘แนนโน๊ะ’ เด็กใหม่ของทุกตอนที่รับบทโดย คิทตี้–ชิชา อมาตยกุล เพราะความสวยเฉียบ ปนเย็นชา และบ้าคลั่ง ที่ระเบิดออกมาในทุกตอนจนเราสัมผัสได้ว่าแนนโน๊ะน่าจะไม่ใช่มนุษย์
แต่เธอเป็นอะไร เล็กเล่าให้เราฟังถึงเบื้องหลังว่าอย่างนี้
“เขาเป็นตัวแทนด้านต่างๆ ของเด็กผู้หญิงที่พอไปอยู่กับใครแล้วก็จะดึงด้านมืดของคนนั้นออกมาโดยที่คนคนนั้นต้องมีเชื้อที่เป็นคนไม่ดีอยู่แล้ว อย่างเช่นครูคนนี้ที่ดูภายนอกเหมือนจะดูดี แต่จริงๆ แล้วมีคดีข่มขืนมากมาย เขาก็จะเอาตัวเองเข้าไปเป็นเหยื่อ พอครูเผยด้านมืดปุ๊บก็จะต้องได้รับกรรมในสิ่งที่ทำ”
ค้กเสริมว่านอกจากรายละเอียดที่เปิดเผยให้เห็นในซีรีส์ ทีมยังต้องเซตคาแร็กเตอร์ของแนนโน๊ะที่ไม่ได้เล่าในเรื่อง เพื่อให้ทีมครีเอทีฟ คิทตี้ และผู้กำกับทั้ง 9 คนเข้าใจตรงกันด้วยว่า จริงๆ แล้วหญิงสาวผู้มากับผมหน้าม้าผู้นี้เป็นลูกสาวของซาตานแห่งโลกมืดที่มายังโลกมนุษย์เพื่อเป็นตัวแทนของกรรมในชุดนักเรียน ซึ่งความพิเศษตรงนี้นี่แหละที่ทำให้ทีมงานต้องคิดมากขึ้นตอนแคสต์นักแสดงอย่างที่เล็กอธิบายให้เห็นภาพ
“ด้วยความที่โครงของไอเดียมันไม่ได้เหมือนกับซีรีส์เรื่องอื่นอยู่แล้ว เราเลยอยากให้แนนโน๊ะเป็นผู้หญิงที่พิเศษ เหนือจริงขึ้นมานิดหนึ่ง ก็เลยมีการตกลงตั้งแต่ตอนแคสต์ว่าคนที่หน้าตาธรรมดาเกินไปเขาจะไม่สามารถพาซีรีส์ไปได้ จนเราได้เจอคิทตี้ ต้องชื่นชมเขาตั้งแต่ตอนแคสต์ว่าเขาก็เปล่งประกายความพิเศษของเขาจนสะกดให้ทุกคนมองได้
“สิ่งที่ทำให้เราเซอร์ไพรส์คือ ตอนแคสต์เราเลือกตอนที่ยากที่สุดให้เล่นคือตอนโดนข่มขืน แล้วเขาต้องยั่วยังไงก็ได้ให้คนที่ข่มขืนฆ่าเขา คนอื่นที่มาแคสต์ก็จะแค่โดนข่มขืน บีบคอ มองหน้า บางคนก็หัวเราะบ้าง ขณะที่คิทตี้เป็นคนเดียวที่พอโดนข่มขืนแล้วร้องเพลงร่าเริงออกมาจนทำให้ผู้ชายต้องพูดว่ามึงร้องเพลงทำไม แล้วก็ฆ่าเขา ตอนหลังเราก็มาถามว่าทำไมวันนั้นเขาถึงร้องเพลง เขาตอบว่าเพราะว่าเขาเข้าใจว่าบทคือทำยังไงก็ได้ให้ผู้ชายคนนี้ฆ่าเขาในขณะที่ข่มขืน เขาก็เลยร้องเพลง ซึ่งแปลว่าเขาอ่านบทได้ลึกมาก ตัวตนเขาอินกับตัวละครนี้มาก ก็เลยได้ความพิเศษออกมาจากตัวเขาด้วย”
ยอมรับในความกล้านำเสนอเรื่องราว พลอตเรื่องและมุมมองใหม่ๆ ให้กับวงการซีรีส์ไทยเลยฮะ สำหรับ เด็กใหม่ ซีซั่น 1 โดยรวมถือว่าเดินเรื่องได้สนุก และน่าติดตามมากๆ
ซึ่งข้อดีอย่างหนึ่งของซีรีส์ชุดนี้ก็คือ เป็นซีรีส์แบบจบในตอน แต่ละตอนไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกัน และตลอดทั้งซีซั่นก็ไม่ได้มีการบอกเล่าที่มาที่ไปของตัวละคร แนนโนะ เลย ว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ต้องการอะไร และทำอะไรได้บ้าง จึงทำให้คนดูไม่จำเป็นต้องดูให้ครบทุกตอนก็ได้ หรือจะเลือกดูสลับตอนกันอย่างไรก็ได้
บทดี วางโคลงเรื่องได้ดีมากๆ สะท้อนสังคมได้เจ็บแสบสุด สาระเยอะ สอนใจคนได้ยอดเยี่ยม คิตตี้แจ้งเกิดได้เด่นมากๆ ในบทนี้ ฉากเอาคืนสะใจสุดๆ สัญลักษณ์ที่น่าสนใจในแต่ละ Episode
หากชื่นชอบบทความนี้ และสนใจเนื้อหาเกี่ยวกับ การรีวิวหนัง สปอยหนัง สามารถติดตาม รีวิวหนัง สปอยหนัง เรื่องอื่นๆ ทุกเรื่องได้ที่ เว็บรีวิวหนัง