รีวิวซีรี่ย์แฟนตาซี The Witcher

เป็นที่เลื่องลื่อและกระแสฮือฮากันอย่างมากกับ รีวิวซีรี่ย์แฟนตาซี The Witcher Season 2 ซีรี่ส์ที่โด่งดังใน เน็ตฟลิก ที่เดิมที The Witcher เคยเป็นทั้งนิยายแฟนตาซีดังระดับปรากฎการณ์ของ อังเดร ซับคาวสกี (Andrzej Sapkowski)นักเขียนชาวโปแลนด์ แต่ก็เป็นฉบับเกมต่างหากที่ช่วยสร้างชื่อให้ The Witcher เป็นที่รับรู้ไปทั่วทุกมุมโลก ด้วยเนื้อหาที่ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน การออกแบบคาแรกเตอร์ เกรอลต์ และตัวละครอื่น ๆ ได้เท่มาก ถ้าอดใจไม่ไหวอยากรับชม ทางเรามีให้ดูฟรีๆ ไม่มีโฆษณาที่ เว็บดูหนังฟรี

รวมไปถึงความสนุกและความยากของเกมที่ทำให้ผู้เล่นใช้เวลาในการเคลียร์เกมเป็นร้อยชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่า ต้นธารและไอเดียของคาแรกเตอร์ (รวมไปถึงการดำเนินเรื่อง) ก็รับอิทธิพลจากเกมมาไม่น้อยเลยทีเดียว ยิ่งได้ เฮนรี คาวิล แฟนเกมตัวยงของ The Witcher ที่ขอเสนอตัวทันทีเมื่อมีการประกาศสร้างแม้จะยังไม่มีบท ก็ยิ่งชัดเจนถึงแนวทางที่  ลอเรน ชมิตท์ ผู้สร้างวางแนวทางเอาไว้จนผลลัพธ์ของมันก็ออกมาเหมือนเราได้เล่นเกมตะลุยด่านยังไงยังงั้นเลยทีเดียว

โดยซี่ซั่นแรก ในแต่ละตอนโครงสร้างการดำเนินเรื่องก็คล้ายเวลาเปิดเกมมาก เช่นจะมีคนมาบอกภารกิจตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งมาในรูปแบบของป้ายประกาศที่ติดตามสถานที่ หรือเป็นซีนที่ เกรอลด์ เข้าพบคนมอบหมายภารกิจเลย ซึ่งก็ถือเป็นการดึงจุดเด่นของเกมมาใช้ได้ดี แถมบางตอนซีรีส์ยังใช้ประโยชน์จากรูปแบบการเล่าเรื่องนี้ในการย่นย่อเรื่องราวให้กระชับขึ้นผ่านปากตัวละครไปเลย

 

รีวิวซีรี่ย์แฟนตาซี The Witcher

 

แต่กระนั้นในอีกด้านหนึ่งการที่มันใช้การดำเนินเรื่องเหมือนเกมก็ทำให้คนดูไม่อาจยึดโยงกับเป้าหมายที่แท้จริงของตัวละครได้เหมือนกัน โดยตอน 1-4 ซีรีส์แทบจะดำเนินเรื่องเหมือนมีหนัง 3 เรื่องที่ต้องเล่าควบคู่ไปทั้ง เกรอลด์, ซิรี และ เยนนิเฟอร์ แบบไม่มีเส้นเรื่องใดบรรจบกันเลย ดังนั้นคนดูก็เหมือนต้องร่วมทำเควสต์ไปกับเกรอลด์เรื่อย ๆ และพอซีรีส์เดินเข้าสู่ตอน 5 นั่นแหละที่โครงสร้างเรื่องเริ่มชัดเจนขึ้น(แต่ก็ไม่ลดทอนความซับซ้อนลงเลย)

ดังนั้นคนดูอาจต้องอดทนดูและเก็บรายละเอียดให้จบ 4 ตอนเสียก่อนครับจึงจะสามารถเข้าใจโลกใน The Witcher และสามารถติดตามเรื่องราวอีก 4 ตอนที่เหลือได้อย่างสนุกสนานพอควร แม้บทซีรีส์จะยังมีปัญหาในแง่ตรรกะอยู่บ้างเนื่องจากมันใส่รายละเอียดที่เยอะ ซับซ้อน แต่ดันให้เวลาในแต่ละซีนที่จะต้องเล่าเรื่องหรือดึงอารมณ์น้อยเกินไปหน่อย

ตั้งแต่การเปิดตัวซีรีส์จากเกมเรื่องนี้ในปี 2019 ผลตอบรับออกมาก็ดีมากจนได้รับการขนานนามว่าเทียบชั้นได้กับ Game of Throne ซึ่งเอาจริงๆ ซีซั่นแรกยังถือว่าไม่ชัดเจนเท่าซีซั่นนี้ เพราะเรื่องราวต่างๆ ได้ขยายเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งเหล่าอสูรที่โผล่ออกมาให้กับวิทเชอร์ได้ล่าเพิ่มมากขึ้นด้วย

เล่าย้อนสักเล็กน้อยในเนื้อหาภาคก่อนหน้าให้เข้าใจตรงกัน แกรอลท์ นักล่าอสูรที่มาจากการทดลองกลายพันธ์ ได้รับบุญธรรมเจ้าหญิง ซิริลา ที่ต้องรกหกระเหินไปทั่วแดนพร้อมกับพลังลึกลับบางอย่างในตัวเอง สาเหตุที่เธอต้องร่อนเร่ก็เพราะว่าทหารจากแคว้นนิฟการ์ด บุกโจมตีเมืองซินทราของเธอ และสิริ ต้องการที่จะแก้แค้นที่ครอบครัวของเธอถูกฆ่าตาย

ส่วนเรื่องราวในภาคนี้ จะเล่าถึงในส่วนที่คนอาจจะมองข้ามไปในซีซั่นที่แล้ว เมื่อสิริหนีจากการตามล่า พลังในตัวของเธอตื่นขึ้นจนทำให้ โมโนลิท หรือเสาหินลึกลับที่ตั้งตระหง่านหลายพันปี ล้มลงจนเกิดแผ่นดินแยก ซึ่งแท้จริงแล้วเสาหินนี้มีความลับที่เกี่ยวข้องกับพลังของเธอซ่อนเอาไว้อยู่อย่างคาดไม่ถึง

 

รีวิวซีรี่ย์แฟนตาซี The Witcher-1

 

รีวิวซีรี่ย์แฟนตาซี The Witcher ซีซั่น 2 

The Witcher ซีรีส์ที่ Netflix สร้างจากนิยายและเกมชื่อดัง กับ Season 2 ที่ทวีคูณความเข้มข้น และกลบจุดอ่อนของซีซั่นที่แล้วอย่างการเล่าเรื่องที่ชวนงง ให้กลายเป็นการเปิดทางไปสู่เรื่องราวและตำนานบทใหม่ๆ ของจักรวาลนักล่าจอมอสูร

The Continent ชื่อโลกจำลองของจักรวาล The Witcher หลายเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข นักล่าอสูร หรือเรียกกันว่า เดอะ วิทเชอร์ ยอดมนุษย์ที่ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับร่างกายมาอย่างดี ทั้งทนเวทมนต์ มองเห็นในที่มืด ทนต่อความเจ็บป่วย และสามารถใช้เวทมนต์ได้อีกต่างหาก ล่าอสูรคืองานของ วิทเชอร์ พวกเขาจะรับงานต่อเมื่อได้ค่าจ้างเท่านั้น ท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆใน The Continent

แต่ไม่วาย ยุคโล่ดาบแบบนี้ ก็ต้องมีการรบราแย่งชิงดินแดนกันบ้างเดี๋ยวจะหลุดคอนเซ็ป นิล์ฟการ์ด เมืองทางใต้ที่กระหายการขยายดินแดน ได้บุกตีเมืองทางเหนืออย่างไม่ปราณี แต่ทว่าจุดประสงค์ในการตีนั้นมันไม่ใช่แค่การยึดครองดินแดนเท่านั้น แต่พวกเขากำลังต้องการใครบางคน

 

รีวิวซีรี่ย์แฟนตาซี The Witcher-2

 

สำหรับ หนังภาคนี้ ‘The Witcher Season 2’ นี้สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัดคือการที่มันตัดสินใจเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงแทนการเรียงแบบบทในหนังสือแล้วไม่ลำดับเวลาเหมือนซีซันแรก และที่สำคัญคือการที่มันทำให้เราได้รู้จักกับการเมืองของเผ่าและอาณาจักรต่าง ๆ ซึ่งทำให้เรื่องราวของซีรีส์ทั้ง 8 ตอนมีความเข้มข้นมากขึ้น

ส่วนตัว มันครบในความเป็น เดอะ วิทเชอร์ แต่มันไม่ครอบคลุม แน่ล่ะ เพราะการเล่าเรื่องผ่านซีรีส์มันไม่เหมือนกับการที่เราได้โลดแล่นไปในโลกของเกมที่มันมีความอิสระเป็นอย่างมาก อิสระแค่ไหนน่ะเหรอครับ ก็ไปได้ทุกซอกทุกมุม ลองนึกภาพว่าคุณสามารถสำรวจทุกอย่าง ป่าทุกตารางนิ้วได้ มันเจ๋งแค่ไหนลองนึกดู ทำให้การเล่าเรื่องของเกมมีความหลากหลายกว่าในระยะที่เท่ากัน

แต่ผมไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะ การนำเสนอเรื่องราวต่างๆทำออกมาได้ดีเลย การถ่ายทำก็หายห่วงครับ ผม ให้ระดับ SSR ไปเลย ถ้าคุณเคยเล่นเกมมาก่อน รับรองว่าไม่มีหงุดหงิดใจจะบ่นตัวเองแน่นอน

 

 

The Witcher เดอะวิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร Season 2 (2021) บอกเล่าเรื่องราวหลังจากสงครามซอดเดน ฮิลล์ ที่เหล่าภราดร (กลุ่มผู้วิเศษที่มีเวทมนตร์) ชนะนิล์ฟการ์ดด้วยพลังไฟของเยนเนเฟอร์ (อันย่า ชาโลทรา) ที่ต่อมาเธอหายตัวไปจนเชื่อกันว่าเธอตายไปแล้ว ซีซั่นนี้เริ่มเรื่องจากการที่เจ้าหญิงซิริ แห่งซินทรา (เฟรย่า แอลลัน) ได้เจอกับเกรอลท์แห่งริเวีย (เฮนรี คาวิลล์) เดอะวิทเชอร์ที่มีโชคชะตาเชื่อมโยงกัน

เกรอลท์ดูแลซิริเหมือนลูกสาวและอยากพาเธอไปในที่ปลอดภัยจึงตัดสินใจเดินทางไปยังเคียร์มอเรนห์ ที่หลบภัยของเหล่าวิทเชอร์ ที่มักมารวมตัวกันในฤดูหนาว เพื่อพักฟื้นร่างกายและเติมน้ำอมฤกต ที่นี่ซิริได้ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อเตรียมตัวต่อสู้เมื่อมีภัย ถึงเคียร์มอเรนห์จะเป็นที่ปลอดภัยแต่อันตรายก็ยังเข้ามาถึงจนได้ เพราะพลังพิเศษของซิริทำให้เธอถูกตามล่าจากเหล่าผู้ร้าย สุดท้ายแล้วเกรอลท์จะสามารถปกป้องซิริได้หรือไม่ และ เยนเนเฟอร์ยังคงมีชีวิตอยู่ไหม ต้องไปติดตามกันต่อในเว็บดูหนังออนไลน์ ที่มีครบ ทุกตอน ทุกเรื่อง ทุกซีซั่น อย่าง เว็บดูหนังฟรี

 

 

The Witcher Season 2 ความคิดเห็นหลังดู

ซีรีส์เรื่อง : The Witcher | เดอะวิทเชอร์ นักล่าจอมอสูร Season 2

ปีที่ออกอากาศ : 2021

ประเภท : แฟนตาซี, แอ็คชั่น, สร้างจากหนังสือ, ดราม่า, เวทมนตร์, ผจญภัย, ย้อนยุค

ทีมผู้สร้าง : ลอเรน ชมิดด์ ฮิสส์ริช

นักแสดง : เฮนรี คาวิลล์, อันย่า ชาโลทรา, เฟรย่า แอลลัน, โจอี้ เบทีย์, เอมอน ฟาร์เรน, มายแอนนา เบอริง, มีมี เอ็ม คายีชา

ระยะเวลาการรับชม : 8 ตอน ตอนละประมาณ 60 นาที

ช่องทางการรับชม : Netflix เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา

ภาษาในการรับชม : เสียงพากย์ : ไทย, อังกฤษ, ญี่ปุ่น | คำบรรยาย : ไทย, อังกฤษ, จีน

ระดับความเหมาะสม : เหมาะสำหรับผู้ชมอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป ต่ำกว่านั้นควรมีผู้ปกครองให้คนแนะนำ

คะแนนจากผู้เขียน : 7.5/10

 

 

สามารถติดตามเรื่องราว การรีวิวหนัง รีวิวซีรี่ส์ เรื่องอื่นๆ ได้ที่ เว็บรีวิวหนัง